วรวุฒิ โตวิรัตน์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ระบุ ของขวัญวันเด็ก ที่มีค่าที่สุด คือ โอกาส และ คุณภาพ ด้านการศึกษาที่เสมอภาคและเท่าเทียมกัน หนุนปฏิรูปการศึกษา เรียนฟรีทั่วถึง ป้องกันเด็กหลุดออกนอกระบบ แต่เมื่อพิจารณาจากรายงานชิ้นล่าสุดขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ได้เผยแพร่ผลการทดสอบ PISA : The Programme for International Student Assessment หรือ โปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล ของเด็กไทยครั้งล่าสุด ปี 2565 กลับพบว่าผลคะแนนสอบของเยาวชนไทยลดต่ำลงทุกทักษะเมื่อเทียบกับการสอบครั้งก่อนหน้าในปี 2561 และลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 แล้ว
.
🔴”โควิด-19 ทำเด็กหลุดออกระบบการศึกษา”
และจากสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งสร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด คือเด็กและเยาวชนจากครัวเรือนเปราะบาง เนื่องจากมีปัญหาความยากจนหรือด้อยโอกาสในมิติต่างๆ เป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว ถ้าไม่มีการช่วยเหลือให้เข้าถึงโอกาสในการฟื้นฟูหรือหลุดออกจากระบบอย่างรวดเร็ว จะกลายเป็นกลุ่มประชากรรุ่นที่สูญหายจากการเรียนรู้ไปเลย
.
ซึ่งจากข้อมูลสถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พบว่าสถานการณ์นักเรียนยากจนพิเศษในระดับการศึกษาภาคบังคับเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเด็กและเยาวชนอายุ 3-14 ปี จำนวนกว่า 2.8 ล้านคน อยู่ใต้เส้นความยากจน เนื่องจากมีรายได้ไม่ถึง 2,803 บาทต่อคน/เดือน
.
🔴”งบการศึกษาลด สวนทางปัญหาด้านการศึกษา”
นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า สิ่งที่กังวลคือการจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาอันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศทุกมิติ แต่ได้รับการจัดสรรลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียง 328,384.7 ล้านบาท ตามร่าง พรบ. งบประมาณปี 2567 ของกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะที่ตัวชี้วัดด้านการศึกษา PISA สะท้อนคุณภาพการศึกษาของเด็กไทยมีประสิทธิภาพลดลง
.
ดังนั้น ’ของขวัญวันเด็ก‘ ที่มีค่าที่สุดในปีนี้ คือ โอกาส และ คุณภาพ ในด้านการศึกษาที่เสมอภาคและเท่าเทียมกัน มีการพัฒนาหลักสูตรล้าสมัย ที่ไม่เอื้อต่อการสร้างสมรรถนะ ทักษะต่างๆให้ดีขึ้น ปรับหลักสูตรแกนกลางให้สำเร็จ รวมถึงการเรียนฟรี ต้องเรียนฟรีอย่างแท้จริงและทั่วถึง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในครอบครัวยากจนที่ตกสำรวจกว่าล้านคนควรได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากหน่วยงานภาครัฐอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้มีเด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษาไปมากกว่านี้