“ชวลิต ทสท.” เผยวงเสวนา “วันอาหารปลอดภัยโลก”เรียกร้องรัฐบาลเอาจริง #อาหารปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย/หากจะให้ไทยเป็น”ครัวของโลก” อย่าดีแต่พูด ต้องทำให้สารเคมีปนเปื้อนผัก ผลไม้ ใกล้เคียงประเทศที่เจริญแล้ว คือ ไม่เกิน 5% แต่ไทยปนเปื้อน 60% ข้อมูล Thai – PAN

ข่าวสาร

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยเปืดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา
องค์การสหประชาชาติ หรือ UN ได้กำหนดให้ทุกวันที่ 7 มิถุนายนของทุกปี เป็น “วันอาหารปลอดภัยโลก”
.
ในวันดังกล่าว Thai – PAN,มูลนิธิชีววิถี หรือ BIOTHAI และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนภาคีเครือข่ายเฝ้าระวัง # อาหารปลอดภัย ได้จัดให้มีการเสวนาในหัวข้อ “นับหนึ่งสร้างระบบและกลไกอาหารปลอดภัยประเทศไทย”
.
ผมได้รับเชิญเป็นวิทยากรในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฏร (แบน 3 สารพิษ พาราควอต คลอไพริฟอส และไกลโฟเซต) ในการเสวนา Thai – PAN ได้รายงานผลลัพธ์ภายหลังจากการแบน 3 สารพิษ ในปี 2562 – 2567 ผ่านมาเป็นเวลา 5 ปี
พบว่า พาราควอต ในผัก ผลไม้ เป็น 0% อัตราป่วยจากพิษสารเคมีกำจัดศัตรูพืชลดลง 2.6 เท่า
.
นอกจากนั้น ในพื้นที่ชนบท เกษตรกรจำนวนมากกล่าวว่า กบ เขียด กุ้ง หอย ปู ปลา เริ่มกลับมาตามธรรมชาติตามลำดับ
นับว่า ผลงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง เป็นฐานตั้งต้นที่ภาคประชาสังคมจะร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเฝ้าระวัง # อาหารปลอดภัย ไปดำเนินการทั้งเชิงรับ เชิงรุกเพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชนคนไทยต่อไป จากนั้นผมได้ให้ความเห็นต่อวงเสวนาใน 3 ประเด็น ดังนี้
.
1. ขอบคุณ ชื่นชม และให้กำลังใจ Thai – PAN มูลนิธิชีววิถี หรือ BIOTHAI ตลอดจนภาคีเครือข่าย ที่มีอุดมการณ์ มีพันธกิจสำคัญในการเฝ้าระวัง #อาหารปลอดภัย มากว่า 10 ปี มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และมุ่งมั่นที่จะทำภารกิจที่สำคัญนี้เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชนคนไทยต่อไป
.
2. ปัจจัยความสำเร็จของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่ผ่านมาที่อาจนำมาปรับใช้ในงานเฝ้าระวัง #อาหารปลอดภัย ต่อไป คือ
.
2.1 ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ “ความจริง” ถึงพิษภัยของสารเคมีที่ปนเปื้อนในผัก ผลไม้ ให้ประชาชนผู้บริโภคตระหนักถึงพิษภัยของสารเคมีอย่างกว้างขวาง เป็นระบบ โดยยกตัวอย่างการลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ที่มีเกษตรกรขาขาด และเป็นแผลพุพอง จากการใช้สารเคมีร้ายแรงมาต้อนรับคณะกรรมาธิการ ฯ จำนวนมาก พร้อมบอกว่าตนเองและลูกหลานจะไม่ใช้สารเคมีร้ายแรงอีกแล้ว
.
นอกจากนั้น การสุ่มตรวจผัก ผลไม้ ทั้งแหล่งผลิตในประเทศ และจากการนำเข้าจากต่างประเทศ ตลอดจนสุ่มตรวจตามตลาดทั้ง 4 ภาค และห้างโมเดิร์นเทรด แล้วประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้บริโภคทราบเป็นระยะ
.
2.2 องค์กรและบุคลากรที่ทำงานเฝ้าระวัง #อาหารปลอดภัย ทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องอดทนต่อแรงเสียดทานจากกลุ่มผลประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มทุนใหญ่จากภาคธุรกิจที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง โดยยึดผลประโยชน์ของชาติ คือ สุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชนเป็นที่ตั้ง
.
3. สำหรับ “การสร้างระบบ กลไก #อาหารปลอดภัย” ผมได้ให้ความเห็นว่า มีภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
.
3.1 ระบบราชการ ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น ซึ่งมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ #อาหารปลอดภัย ใช้บังคับ กำกับ ดูแลอยู่ แต่ระบบราชการที่มีภารกิจเกี่ยวกับ #อาหารปลอดภัย มีหลายกระทรวงไม่เป็นเอกภาพ และไม่บูรณาการกัน แม้แต่ในกระทรวงเดียวกัน ก็ยังมีปัญหาในการประสานงานระหว่างกัน
.
งาน #อาหารปลอดภัย ซึ่งเป็นงานสำคัญของชาติควรได้รับการยกระดับให้มีเอกภาพเพื่อความมีประสิทธิภาพในการบริหารงาน นอกจากนี้ ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพ อนามัยประชาชน ควรเอา “ปัญหา” เป็นตัวตั้ง
.
ผมได้ยกตัวอย่างสำคัญในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ผ่านมาเมื่อถึงวาระพิจารณาของกระทรวงสาธารณสุข มี
ปลัดกระทรวง อธิบดี เลขาธิการ ครบทุกกรม ผมได้ฝากการบ้านไปว่าโรคที่คร่าชีวิตคนไทยตายอันดับ 1 มาหลายสิบปี คือ โรคมะเร็ง และยังไม่มีหนทางที่จะลดอัตราการตายลงได้ มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกปี ๆ ไปงานศพที่ไหนส่วนใหญ่
ก็ “มะเร็ง ๆๆๆ”
.
แม้สาเหตุของการเป็นโรคมะเร็งจะมาจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุสำคัญประการหนึ่งซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นสาเหตุของการเป็นโรคมะเร็ง คือ อาหารที่เรารับประทานกันทุกวัน ได้แก่ ผัก ผลไม้ ที่มีสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน เนื้อสัตว์ที่มียาปฏิชีวนะตกค้างเกินค่ามาตรฐาน
.
อาหารดังกล่าวเมื่อรับประทานเข้าไป ไม่ได้ทำให้เจ็บป่วยในทันที หรือชักดิ้น ชักงอต่อหน้า ต่อตา เราจึงเคยชิน ประมาท คิดว่าไม่มีอะไร แต่เมื่อพิษของสารเคมี หรือยาปฏิชีวนะที่เกินค่ามาตรฐานสะสมในร่างกายมากเข้า ๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี 5 ปี 10 ปี 20 ปี และก็เป็นสาเหตุของโรคร้ายหลายโรคในที่สุด เมื่อทราบสาเหตุของปัญหา เราต้องหาทางป้องกันแต่ต้นเหตุ
.
นอกจากนั้น ผมได้ยกตัวอย่างกรณี เลขาธิการ อย.ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า ไทยนำเข้าผัก ผลไม้จากต่างประเทศปีละนับล้านตัน จากการสุ่มตัวอย่างผัก ผลไม้ ที่ด่านเชียงของ จังหวัดเชียงราย ต้องส่งมาตรวจที่ส่วนกลาง คือกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งไม่ทันการณ์ ผัก ผลไม้ เน่า เสียหายง่าย ก็ต้องปล่อยผัก ผลไม้ดังกล่าวเข้ามาให้คนไทยบริโภค
.
เรื่องนี้ หากรัฐมีนโยบายในการนำเข้าผัก ผลไม้ จากต่างประเทศ ก็ควรมีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคในการสุ่มตรวจสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานอย่างเข้มแข็งโดยมีห้องแล็บ หรือแล็บเคลื่อนที่ ณ หน้างาน หรือหากเห็นว่าประเทศไทยเป็นเมืองเกษตร สามารถปลูกผักให้เพียงพอต่อการบริโภคภายในได้ ก็ต้องมีนโยบายในการดูแลเกษตรกรด้านการตลาด ป้องกันต่างประเทศขายตัดราคา
.
ผมได้เสนอแนะต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า
เราเสียงบประมาณกับ”การรักษา” มามากมายมหาศาล ทั้งคนเจ็บป่วย ครอบครัว และรัฐที่ต้องสร้างหมอ สร้างและขยายโรงพยาบาล ดังนั้น เรามาเจียดงบประมาณมา “ป้องกัน” อย่างมีนัยสำคัญในการมีห้องแล็บ
ณ หน้างานด่านสำคัญ ๆและบริหารจัดการภายในกระทรวง เช่น ระหว่าง อย.กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ส่วนระหว่างกระทรวง เช่น สาธารณสุข เกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สถาบันอาหาร มกอช. ฯลฯ เป็นงานนโยบายที่รัฐควรบูรณาการให้มีเอกภาพ
.
ขณะนี้ใกล้จะพิจารณางบประมาณปี 2568 จะได้ติดตามว่ามีการให้ความสำคัญจัดสรรงบประมาณ # อาหารปลอดภัยมากน้อย เพียงใด และมีการประสานงานระหว่างองค์กรเพื่อให้งานดูแลสุขภาพอนามัยประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่ อย่างไร
.
3.2 ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคีเครือข่ายผู้บริโภค นับเป็นองค์กรสำคัญยิ่งในการเฝ้าระวัง # อาหารปลอดภัย ควรมีเครือข่ายลงลึกไปยังหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด รวมทั้งท้องถิ่น เป็นหู เป็นตา เฝ้าระวัง # อาหารปลอดภัย งานก็จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
.
ข้อเสนอของผมโดยสรุปต่อการสร้างระบบและกลไก # อาหารปลอดภัยก็คือ ให้ความสำคัญกับการมีองค์กรเฝ้าระวัง #อาหารปลอดภัย อย่างเป็นระบบ ด้วยการปรับปรุงระบบราชการให้มีเอกภาพ บูรณาการกันทั้งในระหว่างกระทรวง และกระทรวงเดียวกันโดยยึดประโยชน์ประชาชนผู้บริโภคเป็นที่ตั้ง
.
ที่สำคัญ ภาครัฐจะต้องทำงานเชื่อมประสานกับภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคีเครือข่าย ผู้บริโภค # อาหารปลอดภัย ลงลึกไปถึงระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด เพื่อให้การเฝ้าระวัง #อาหารปลอดภัย มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
.
ข้อสรุปสุดท้ายของวงเสวนาเห็นว่า รัฐบาลควรจะทำนโยบาย “ครัวของโลก” ให้เป็นจริงในทางปฏิบัติ โดยมีเป้าหมายให้ได้รับการยอมรับจากสากลว่า อาหารของเราปลอดภัยโดย ผัก ผลไม้ ของเราไม่มีสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน เนื้อสัตว์ของเราไม่มียาปฏิชีวนะตกค้างเกินค่ามาตรฐาน
.
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมาตรฐานของประเทศในยุโรป อเมริกาและประเทศที่เจริญแล้ว มีสารเคมีปนเปื้อนในผัก ผลไม้ ไม่เกิน 5% แต่ประเทศไทยจากการสุ่มตรวจของ Thai – PAN ปนเปื้อนเกิน 60% และราชการโดย อย. ปนเปื้อนไม่เกิน 25% นับว่ามาตรฐานความปลอดภัยของไทยด้งกล่าวยังห่างไกลกับสากลมาก อาจเป็นเพราะที่ผ่านมา ให้ความสำคัญกับการเจ็บป่วยรุนแรง ขาดความใส่ใจต่อการสะสมพิษร้ายของสารเคมีในร่างกาย ดังนั้น จากนี้ไป รัฐบาลควรเอาจริงเอาจังกับปัญหาดังกล่าว โดยเร่งแก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุของโรคร้ายหลายโรคจากการรับประทานอาหารที่ไม่ปลอดภัย
.
ประการสำคัญ ในภาวะโลกร้อนขึ้นทุกปี ๆ เช่นนี้ หากเราพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการสร้างมาตรฐานยกระดับ # อาหารปลอดภัยให้สัดส่วนสารเคมีปนเปื้อนในผักผลไม้ใกล้เคียงกับประเทศที่เจริญแล้ว ก็จะทำให้นโยบาย
ประเทศไทยเป็น “ครัวของโลก” ได้รับการยอมรับจากสากล นักท่องเที่ยวก็จะเข้ามาชิมอาหารไทยมากขึ้น ๆ
ตามมาอย่างแน่นอน
.
ที่สำคัญ สุขภาพอนามัยของคนไทยก็จะดีขึ้นเป็นเงาตามตัว

ร่วมแบ่งปันนโยบาย:

Facebook
Twitter

ข่าวสารน่าสนใจอื่น ๆ

ข่าวสาร
แถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทย รู้สึกกังวลต่อท่าทีอันไม่กระตือรือร้นของ...
ข่าวสาร
"ชวลิต ทสท." เสนอแนะ "นรม." และ "ผู้นำฝ่ายค้าน ฯ" ถอดสลัก "คดีตาก...
ข่าวสาร
"คุณหญิงสุดารัตน์" เล่านาที ประสานทีม เจ็ตสกี้ "เปิ้ล นาคร" ฝ่ากร...
ข่าวสาร
แถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทย รู้สึกกังวลต่อท่า...
ข่าวสาร
"ชวลิต ทสท." เสนอแนะ "นรม." และ "ผู้นำฝ่าย...
ข่าวสาร
"คุณหญิงสุดารัตน์" เล่านาที ประสานทีม เจ็ต...
ข่าวสาร
"สุดารัตน์" ฝ่ากระแสน้ำ ลุยแจกถุงยังชีพ ช่...
ติดตามทางโซเชียลมีเดีย