จากกรณีนักเรียน ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ถูกนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกัน บุกขึ้นมาที่หอพักและบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ต่อหน้าเพื่อนนักเรียนกว่า 30 คน โดยเมื่ออาจารย์ทราบเรื่องได้เรียกผู้ปกครองมาแจ้งว่าผิดระเบียบโรงเรียนและขอให้ปิดข่าวเกรงโรงเรียนจะเสียชื่อเสียง ผู้ปกครองร้องเรียนไปที่กระทรวงศึกษาธิการแต่เรื่องเงียบ จนต้องตัดสินใจมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือ ซึ่งล่าสุดมีการทำทัณฑ์บนนักเรียนผู้ก่อเหตุ และย้าย ผอ. ไปช่วยราชการพร้อมตั้งกรรมการสอบสวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
มีความเห็นจากนางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยนางสาวธิดารัตน์กล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นกรณีอุกอาจและสั่นสะเทือนความเชื่อมั่นของผู้ปกครองต่อมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการในการดูแลบุตรหลานเป็นอย่างยิ่ง ในประเด็นที่ให้ทำทัณฑ์บนนักเรียนผู้ก่อเหตุ แต่กลับให้ผู้เสียหายย้ายโรงเรียน นางสาวธิดารัตน์กล่าวว่า แม้ว่าการศึกษาจะเป็นเรื่องสำคัญก็ตาม แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวถือเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรงจนโรงเรียนสามารถไล่ออกหรืออย่างน้อยพักการเรียนได้ทันที การทำทัณฑ์บนจึงเหมือนเป็นการแสดงให้เห็นว่าการกระทำผิดดังกล่าวเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ผู้เสียหายกลับต้องย้ายโรงเรียนซึ่งไม่ยุติธรรมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ตนยังมีข้อสังเกตต่อกระทรวงศึกษาธิการในสองประเด็น หนึ่งคือทำไมมีเพียง ผอ. เพียงคนเดียวที่ถูกย้ายชั่วคราว แต่คนที่มีส่วนกับเหตุการณ์ดังกล่าวมีตั้งแต่ครูเวร ครูประจำหอพักนอน ไปจนถึงรองฯ ฝ่ายปกครอง กลับแค่ถูกตั้งกรรมการสอบสวนเท่านั้น ซึ่งการกระทำของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าการปกปิดเหตุการณ์หรือการเสนอเงินให้กับผู้ปกครองของเหยื่อนนั้นชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเข้ามาแทรกแซงกระบวนการสอบสวนแล้ว กรณีนี้ยังถือว่าเป็นการผิดวินัยร้ายแรงจนสามารถสั่งพักราชการผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไว้ก่อนได้เช่นกัน เท่ากับว่าตอนนี้กระทรวงฯ กำลังให้ท้ายบุคลากรของตนอยู่หรือไม่
ประเด็นที่สองคือผู้ปกครองได้ร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังกระทรวงศึกษาฯ แต่ไม่มีความคืบหน้าจนต้องมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน คำถามที่เกิดขึ้นคือทำไมกระทรวงฯ ถึงปล่อยให้กระบวนการสอบสวนหาความจริงล่าช้าจนผู้ปกครองต้องหาที่พึ่งอื่นๆ และเป็นไปได้หรือไม่ว่ายังมีกรณีอื่นๆ ที่ความล่าช้าระบบการสอบสวนของกระทรวงฯ ช่วยให้ผู้กระทำผิดยังลอยนวล ในขณะที่ผู้เสียหายคนอื่นๆ ยังไม่ได้รับความยุติธรรมอยู่อีก ซึ่งทุกวันนี้มีข่าวกรณีบุคลากรทางการศึกษามีส่วนในการล่วงละเมิดทางเพศเยาวชนแทบทุกเดือน และเป็นไปได้ว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ไม่เป็นข่าวออกมา
ที่กระทรวงฯ แถลงว่าจะเน้นย้ำให้โรงเรียนในกลุ่มโรงเรียนประจำว่าจะต้องไม่ละเลยและไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีกนั้นไม่ต่างอะไรจากวัวหายล้อมคอก นอกจากการปรับปรุงมาตรการความปลอดภัย สิ่งที่กระทรวงฯ ต้องทำอย่างจริงจังคือให้อำนาจผู้ตรวจราชการประจำกระทรวงฯ ทั้ง 18 เขต ในการสอบสวนเรื่องร้องเรียนต่างๆ และให้เรื่องว่าด้วยการละเมิดสิทธิของนักเรียนเป็นภารกิจสำคัญเร่งด่วนลำดับแรก อีกส่วนคือการเพิ่มโทษเพื่อป้องปรามและลงโทษไม่ให้มีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวอีกต่อไป โดยกำหนดระเบียบให้ข้าราชการกระทรวงฯ คนใดที่เกี่ยวข้องกับกรณีล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำผิดหรือปกปิดการกระทำผิด ให้ถือว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรงและสั่งพักราชการเพื่อทำการสอบสวนทันที ไม่ให้มีการสั่งโยกย้ายออกนอกพื้นที่หรือเข้าส่วนกลางเป็นการชั่วคราวอีกต่อไป
ผลิตโดย พรรคไทยสร้างไทย
ที่อยู่ผู้ผลิต 54/1 ซอยลาดปลาเค้า 60 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 จำนวนที่ผลิต 1 ชิ้น วันที่ผลิต ตามวันและเวลาที่ปรากฏ