นายนรุตม์ชัย บุนนาค คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคไทยสร้างไทย ทวงถามความคืบหน้ากรณีที่ เจ้าหน้าที่คลังสรรพาวุธ ขโมยเครื่องกระสุน นับหมื่นนัด ออกจากคลังสรรพาวุธ ของนาวิกโยธิน กองทัพทัพเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีว่า ขอให้เร่งติดตามผู้ที่เกี่ยวข้อง มาดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งเชื่อว่ากรณีที่เกิดขึ้น อาจทำเป็นขบวนการ ไม่ได้นำกระสุนล็อตใหญ่ หนีหายออกจากค่ายเพียงลำพัง
ขณะเดียวกันขอเรียกร้องให้ กองทัพเรือดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา จัดการกับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องทุกคนและทุกระดับ รวมถึงต้องตรวจสอบ จนได้ข้อยุติว่าการหายไปของกระสุนปืนดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือนั้น มีวัตถุประสงค์อย่างไร จะนำไปใช้สร้างสถานการณ์หรือไม่
นายนรุตม์ชัย กล่าวด้วยว่า พี่น้องประชาชนแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าการกระทำในลักษณะเช่นนี้ ทำมานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งเริ่มทำเป็นครั้งแรก พร้อมข้อสังเกตว่า หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพ ปล่อยปละละเลยให้เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และหลายครั้งก็นำมาสู่การเกิดโศกนาฏกรรม เช่น เหตุการณ์กราดยิงที่โคราชโดยเจ้าหน้าที่ทหาร เป็นผู้ขโมยปืนออกมาใช้ และยิงประชาชน เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
หรือเหตุการณ์การปล้นปืน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อ 4 มกราคม 2547 เกิดเหตุคนร้ายบุกปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส จนทำให้มีทหารเสียชีวิต 4 นาย และอาวุธปืนหายออกจากค่าย 413 กระบอกและปัจจุบันติดตามกลับมาได้เพียง 94 กระบอก เท่านั้น
หรือเหตุการณ์อาวุธปืนหายออกจากกองทัพเรือ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกแต่ มีเหตุการณ์ ที่ปืนถูกขโมย โดยเป็นปืนกลอายุ 50 ปีหายจากคลังกองทัพเรือสัตหีบ
หรือ กรณีที่มีปืน AK 102 จำนวน 28 กระบอกหายออกไปจากคลังรักษาการกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอเมือง นราธิวาส เป็นต้น
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมด กองทัพคงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และเป็นการป้องปรามสถานการณ์ ที่อาจนำมาซึ่งความสูญเสีย ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนเช่นในอดีต กองทัพเรือต้องเร่งติดตาม ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินการ โดยเร็ว และชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ เพื่อคลายความกังวล และ ต้องหาแนวทางป้องกัน ไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก