นายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร และประชาสัมพันธ์ พรรคไทยสร้างไทย แสดงความกังวลถึงการสื่อสารของรัฐบาลชุดนี้เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องใช้เวลานาน มีขั้นตอนเยอะ และใช้งบประมาณมาก รวมถึงการให้สัมภาษณ์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริหารพรรคส่งสัญญาณเป็นนัยยะว่าจะยังคงมีการยุบสภาหลังแก้รัฐธรรมนูญเสร็จอยู่หรือไม่?
[ ไม่กำหนดเวลาแก้ไข เพื่อยืดอายุรัฐบาล? ]
การที่พรรคแกนนำรัฐบาลให้สัมภาษณ์รวมถึง ผู้บริหาร ของพรรคหลายคน ส่งสัญญาณเป็นนัยยะว่า การยุบสภาหลังแก้รัฐธรรมนูญเสร็จ ไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลสัญญาไว้ รวมถึงฝ่ายกฏหมายพรรคแกนนำก็ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในเชิงว่าต้องใช้งบประมาณมาก และใช้เวลานาน รวมถึงในการประชุม ครม.ก่อนหน้านี้ไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนแม้แต่น้อยในเรื่องการศึกษาการทำประชามติ ด้วยทิศทางการสื่อสารแบบนี้ตนเองขอตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการส่งสัญญาณให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนหรือไม่
[ ยิ่งอยู่กับรัฐธรรมนูญฉบับนี้นานยิ่งเป็นบ่วงรัด]
ตลอดเวลาที่ผ่านมากติกาแบบนี้ทำให้ประชาชนไม่ได้รัฐบาลที่พวกเขาต้องการ และการที่แกนนำรัฐบาลชุดนี้ สื่อสารเรื่องแก้ รัฐธรรมนูญว่าต้องใช้เวลานาน เป็นเหมือนการเอาบ่วงรัดคอตนเองขึ้นเรื่อยๆ เพราะกติกาที่บิดเบี้ยวในรัฐธรรมนูญ พร้อมที่หั่นขาเก้าอี้รัฐบาลได้ตลอดเวลา ดังนั้นหากรัฐบาลมีความเชื่อว่า การดึงเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะช่วยยืดอายุรัฐบาลให้อยู่ในอำนาจนานขึ้นนั้น ถือว่าเป็นความคิดที่ผิดมาก เพราะ ประชาชนจะพุ่งเป้ากดดันหนักขึ้นเนื่องจากเป็นสัจจะที่รัฐบาลให้ไว้ตอนเข้าสู่อำนาจ
[ ประชาชนต้องการเขียนกติกาใหม่ด้วยตัวเองอย่างเร็วที่สุด ]
หากวันนี้รัฐบาลหักหลังพวกเขาด้วยเรื่อง รัฐธรรมนูญอีก จะทำให้ความชอบธรรมของรัฐบาลชุดนี้ น้อยลงเรื่อยๆ การที่รัฐบาลอ้างการเข้าสู่อำนาจด้วยเหตุผลว่าจะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่มีการให้ข้อมูลในด้านความซับซ้อนและไม่ยอมบอกกรอบเวลานั้น ส่วนตัวเชื่อว่า ประชาชนต่อไปนี้จะตั้งคำถามในทุกการประชุม ครม.ต่อจากนี้ ” นายปริเยศ กล่าว