จากกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่แสดงสปิริตลาออกกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.เลื่อนการบังคับใช้
พ.ร.บ.อุ้มหาย ฯ ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะนายกรัฐมนตรีได้ยุบสภา ฯ ไปแล้วนั้น
ตนเอง อยากจะเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ แสดงสปิริตลาออกอีกครั้ง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้เทคนิคทางการเมืองอยู่จนใกล้จะครบวาระ 4 ปี จึงยุบสภา
ซึ่งเหตุผลในการยุบสภา ก็เป็นที่ทราบกันดีอีกเช่นกันว่า เพื่อให้นักการเมืองได้ไปสังกัดพรรคการเมือง ในเวลาที่เข้าเงื่อนไขคุณสมบัติการสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.
เฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี จำเป็นอย่างยิ่งที่สมาชิกจะต้องมีคุณสมบัติการเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในเวลาที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้เข้าเงื่อนไขตามคุณสมบัติที่จะสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้ทันกำหนดเวลา
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าเหตุผลในการยุบสภาของ พล.อ.ประยุทธ์ ฯ ไม่เกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยว่าการออก พ.ร.ก.ของรัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
ความจริงถ้าพล.อ. ประยุทธ์ ไม่แสดงท่าทีให้ความเห็นในเชิงเหน็บแนมการเตรียมงานในระยะเปลี่ยนผ่านของคณะที่เตรียมการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ตนเองคงไม่ย้อนไปกระตุกความคิดว่าใครควรแสดงสปิริตมากกว่ากัน
ตน อยากจะเสนอแนะในทางการเมืองเพื่อเป็นบรรทัดฐานให้ปรากฎไว้ว่าเมื่อเหตุผลในการออก พ.ร.ก. สำคัญของรัฐบาล ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ ฯ ก็ควรแสดงสปิริตลาออก
ไม่ควรหาเหตุผลแบบข้างๆคูๆ ที่ไม่ตรงประเด็น เฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ควรกังวลว่าใครจะรักษาการ เพราะ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ฯ ได้วางบรรทัดฐานไว้อยู่แล้วเพื่อไม่ให้การบริหารราชการแผ่นดินเกิดสูญญากาศ จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ฯ แสดงสปิริตอีกครั้งครับ
นายชวลิต วิชยสุทธิ์
คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคไทยสร้างไทย
และอดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 และ พ.ศ.2566