เป็นที่ทราบกันดีว่านโยบายเงินดิจิทัล10,000บาทนี้เป็นนโยบายหลักที่หาเสียงไว้ของรัฐบาลจึงจำเป็นต้องดำเนินการให้สำเร็จให้ได้โดยด่วน แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทุกคนคงได้รับทราบข่าวสารทางสื่อสังคมต่างๆถึงความไม่ชัดเจน และส่อว่าจะประสบปัญหา และรัฐบาลถูกตั้งคำถามมากขึ้นทั้งที่เพิ่งทำงาน
ปัญหาที่แท้จริงตนเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องของเชิงเทคนิคหรืองบประมาณเท่านั้น เนื่องจากหากรัฐบาลดึงดันจะแจกเงินย่อมทำได้แม้ขาดงบประมาณ นั่นคือการออกกฏหมายเพื่อขอกู้เงินเป็นการเฉพาะ และขออนุมัติจากสภา แต่หากเจาะลึกลงไปถึงต้นตอปัญหาอาจเป็นเพราะนโยบายนี้ส่งผลกระทบพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน เพราะมีความสุ่มเสี่ยงที่อาจขัดต่อ พ.ร.บ.การเงินการคลัง ของประเทศด้วย
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้จึงเชื่อว่ารัฐอาจจะเลือกออกมาตรการพิเศษช่วงปีใหม่สงกรานต์ ในรูปแบบการแจกเงินสด หรืออาจเป็นการดึงเอาโครงการจากรัฐบาลเก่ามาใช้พลางก่อนเช่น คนละครึ่ง หรือเราเที่ยวด้วยกัน และปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อยเพื่อใช้ยืดระยะเวลาออกไป ประคองอารมณ์ของผู้คนที่กำลังผิดหวังกับความล่าช้าของนโยบายนี้ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องพิจารณาหากรัฐบาลต้องการกู้เงินมาใช้กับโครงการเหล่านี้เป็นการชั่วคราวด้วยเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วนทางเศรษฐกิจ
“ผมให้กำลังใจรัฐบาลที่ต้องประสบเหตุการณ์หลายอย่างในช่วงแรกของการบริหารงาน แต่ต้องพูดตรงไปตรงมาว่า นโยบายที่ล่าช้านี้ส่งผลถึงโครงการในหลายๆกระทรวงที่อาจได้รับผลกระทบไปด้วยหากยืนยันเดินหน้านโยบายเงินดิจิตอลอยู่ เนื่องจากต้องกันงบประมาณไว้รองรับจำนวนมาก ผมอยากให้พิจารณาข้อเสนอของไทยสร้างไทยอย่างจริงจังและอย่ามองว่าเป็นข้อเสนอจากฝ่ายค้าน เนื่องจากการให้เครดิตต่อประชาชนแทนเงินดิจิทัล จะทำให้ประชาชนต่อยอดได้มากกว่า และเข้าถึงได้ง่าย และเป็นเงินหมุนเวียนทั้งในส่วนของรัฐและประชาชนได้”