นายรณกาจ ชินสำราญ กรรมการบริหารพรรค และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงการปรับค่าไฟรอบเดือน กย.-ธค. ที่จะถึงนี้ จะมีการประกาศความชัดเจนในเดือน ส.ค. ว่าจะตรึงราคาเดิม หรือจะปรับลดลงได้เท่าไหร่
ในขณะที่เศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่ฟื้น สัญญาณตัวเลขการส่งออกที่เคยเป็นพระเอกในปีที่แล้ว กลับหักหัวลดลงต่อเนื่อง 9 เดือน รวมไปถึงกำลังซื้อที่หายไปในเดือน พค.-มิ.ย. ที่ผ่านมา จากผลพวงของภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงทะลุ 90% ของ GDP และมีแนวโน้มจะแย่กว่าเดิม ในช่วง Low Season หน้าฝน
การปรับค่าไฟรอบที่จะถึงนี้ ถ้าไม่พิจารณาให้รอบคอบ และปรับค่าไฟลดลงอย่างมีนัยยะ ไม่เอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง วิกฤติพลังงานนี้อาจกลายเป็นสึนามิทางพลังงานที่ถล่มประเทศไทย จะทำให้ประเทศถดถอยเป็นแผลลึกทางเศรษฐกิจมากขึ้นไปอีก เพราะจะมีเรื่องน้ำมันดีเซล ที่เตรียมจ่อจะปรับขึ้นอีก 5 บาท ในวันที่ 21 ก.ค. ที่จะถึงนี้ร่วมกันทำให้ค่าครองชีพแพงขึ้นไปอีก 10-20%
แนวทางที่ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ยื่นหนังสือให้ พลเอก ประยุทธ ในวันที่ 14 กค. 66 เพื่อขอให้พิจารณาปรับลดค่าไฟลงประมาณ 10% หรือลดลง 45 สตางค์ ซึ่งจะทำให้ค่าไฟลงมาอยู่ที่ 4.25 บาท/หน่วย เรื่องนี้จะช่วยภาคอุตสาหกรรมคล่องตัวขึ้น ซึ่งจะส่งผลที่ดีกับภาคประชาชนอย่างมาก
ตนอยากขอให้พลเอกประยุทธ หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อมอบของขวัญให้คนไทยในช่วง Low Season ที่กำลังซื้อหดหายในหน้าฝนที่จะถึงนี้ โดยการพิจารณาแนวทางของ กกร. อย่างละเอียดรอบคอบ และอนุมัติการลดราคาค่าไฟฟ้าลงแบบมีนัยยะ เพื่อการก้าวลงจากตำแหน่ง ของพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา อย่างสวยงาม