[1) #ค้างจ่ายเบี้ยเสี่ยงภัย (โควิด)]
-บางรายรอตั้งแต่ปี 2564
ยังไม่ได้เงิน!
กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้มีการจ่ายค่าเบี้ยเสี่ยงภัยให้บุคลากรที่ต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด โดยกำหนดให้เบิกค่าตอบแทนเป็นผลัด ผลัดละ 1,000 บาท และ 1,500 บาท
โดยใช้เงินกู้ 220,000 ลบ. สำหรับการแพทย์/สาธารณสุข เพื่อจ่ายเป็นค่าตอบแทน ค่ารักษา
คณะทำงานสาธารณะสุขพรรคไทยสร้างไทย ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงพบปรากฏว่า มีบุคลากรทางการแพทย์ยังไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนตั้งแต่ ตุลาคม 2564 ส่วนหนึ่งได้รับถึงต้นปี 65 ที่ตกค้างจำนวนมากเป็นกลุ่มสายสนับสนุน เช่น ผู้ช่วยพยาบาล (ที่ดูแลคนไข้โควิดโดยตรง) แม่บ้าน คนขับรถรับส่งผู้ป่วน โดยอ้างว่า เงินกู้จ่ายได้เฉพาะกลุ่มวิชาชีพ รวมถึงกลุ่มโรงพยาบาลนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (ตำรวจ ทหาร รร.แพทย์ ท้องถิ่น) ที่ไม่ได้รับค่าเสี่ยงภัย ทั้งกลุ่มวิชาชีพ และสายสนับสนุน กทม เคยทำหนังสือไปเบิก แจ้งกลับมาว่างบหมดแล้ว
“เงินกู้อ้างมาจ่ายฮีโร่ชุดขาว แต่เงินหมดแบบงงๆ โควิดปิดจ๊อบ ฆ่าขุนพลไม่เหลือใย อืดทั้งค่าเสี่ยงภัย ทั้งค่ารักษา ติดเงิน รพ.รัฐ-เอกชน ติดอย่างเดียวรอได้ แต่ลดราคาย้อนหลัง รอบหน้าโรคระบาดมาไม่มีใครช่วยแล้ว” คณะทำงานสาธารณะสุขไทยสร้างไทย กล่าว
ล่าสุดสองเดือนก่อน สธ.เบิกจ่ายมาได้อีกสองพันกว่าล้าน ประกาศจะจ่ายให้เสร็จสิ้นเดือน กันยายน ทั้งในและนอกสังกัด สธ. นับเวลาถอยหลังอีก 2 วันครบกำหนด ยังเงียบกริบ
.
[2) #ค้างจ่ายเงินทำศพผู้สูงอายุ]
-บางท่านไปเกิดใหม่แล้วก็ยังไม่ได้เงิน
รอเงินทำศพข้ามปี!
28 กันยายน 2566
รำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส. อุบลราชธานี พรรคไทยสร้างไทย หารือต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
เรื่องการขอรับค่าจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี 3,000 บาท แต่เกิดปัญหาความล่าช้า บางราย 6 เดือน – 1 ปี บางรายเอกสารหาย
นางรำพูลกล่าวว่าช้าจนหมดหวัง บางท่านไปเกิดใหม่แล้วก็ยังไม่ได้เงิน ค้างจ่ายทั้งหมด 4,083 ราย ทั้งที่งดประมาณก็มีอยู่ แต่ช้าที่กระทรวง ทำให้ความเชื่อมั่นต่อกระทรวง พม. ยิ่งลดลงเรื่อยๆ จึงขอเรียกร้องให้กระทรวง พม. เร่งจ่ายเงินให้เร็วขึ้น 30-60 วัน และ อพม. ที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงขอเพิ่มค่าตอบแทนให้เหมาะสมกับการทำงานด้วย
.
[3) #ค้างจ่ายเงินค่าเคสรถฉุกเฉิน]
-รถฉุกเฉินทั่วประเทศ
รอมาแล้ว 8 เดือนยังไม่ได้เงิน !
เมื่อวาน!! 10.00 แด๊ดดี้ศิธา พาทีมกู้ภัย / ส.ส.ไทยสร้างไทย บุกทวงถามถึงสภา
น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมือง คณะทำงานพรรคไทยสร้างไทย รับหนังสือ รับหนังสือร้องเรียนจากทีมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ภัย กรณีสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ค้างจ่ายเงินสนับสนุนมากว่า 8 เดือน
น.ต.ศิธา กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลและสวัสดิการต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อการสนับสนุนจากภาครัฐไม่เข้มแข็งพอ ก็ต้องอาศัยความเข้มแข็งของภาคประชาชนที่เข้ามาทำในกรณีฉุกเฉินต่างๆ และภาครัฐที่ไม่สามารถทำได้เองอย่างทั่วถึงก็ต้องมีเงินสนับสนุนเป็นกลไกอย่างหนึ่ง แม้ว่าอาสาสมัครจะได้รับเงินสนับสนุน 350 บาท/เคส แต่ก็ต้องใช้อุปกรณ์ รถ ค่าน้ำมัน และค่าอบรมเอง พอหยุดเงินสนับสนุนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565
ทำให้หลายหน่วยงานวิ่งต่อไปไม่ได้
อยากฝากไปถึงรัฐบาลให้ช่วยดูแลตรงนี้ เพื่อให้ทุกคนที่มาทำงานอาสาเพื่อประชาชนมีลมหายใจต่อไปได้ เช่นเดียวกับกรณีช่วงกาาระบาดของโควิด-19 ที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ก็มีเงินงบประมาณสนับสนุนบุคคลากรทางการแพทย์กว่า 2 แสนล้านบาท บางคนเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ พอไปทวงถามก็บอกว่าเงินหมดแล้ว
ทั้งนี้ตนขอฝากไปถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า นโยบายการแพทย์ฉุกเฉินทั้งภาคพื้นและทางอากาศ ตนเห็นด้วย แต่เรื่องที่ต้องชี้แจงให้ชัดเจนคือการใช้งบ ไม่ว่าจะเป็นงบลับ งบฉุกเฉิน และที่สำคัญกว่านั้นคืองบประมาณที่ให้กับประชาชนที่อาสาเสียสละมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในวันที่กลไกของภาครัฐไม่ครอบคลุม แต่ถ้าเราไม่จ่ายเงินสนับสนุนเขาก็อยู่ไม่ได้ และอีกหน่อยอาสาสมัครก็จะน้อยลง แต่การจัดสรรแบ่งงบประมาณตั้งหลายล้านล้าน ออกมาดูแลคนที่เขามีจิตอาสาช่วยเหลือรัฐบาล ช่วยเหลือประชาชน รัฐบาลจะเบาแรงและใช้งบประมาณแผ่นดินคุ้มค่า น้อยกว่าที่ควรจะเป็นอีกมาก
“ถ้าท่านดูแลประชาชนได้ตามรัฐธรรมนูญ ตามสิทธิที่เขาควรได้รับ ประชาชนไม่ต้องมาเหนื่อยยากขนาดนี้ นี่เขามีควาสมัครใจมาดูแลให้แล้ว ถ้าท่านดูแลเขาได้ดี คนเหล่านี้จะเป็นกระบอกเสียงให้ท่านด้วยซ้ำ เราไม่ได้เสียดายคะแนนเสียง ถ้ารัฐบาลทำได้ดี เขาจะสนับสนุนท่านเพราะประชาชนอยู่ดีกินดี เราก็เห็นดีด้วย“
11.00 ส.ส. ชัชวาล แพทยาไทย ตั้งกระทู้หารือเฉพาะ ถึง สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน โดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาชี้แจง ซึ่งนายชัชวาล ชี้ให้เห็นถึงความยากลำบาก โดยเฉพาะการจัดการเงินกองทุน ที่ถูกค้างจ่าย ให้กับอาสาผู้ปฏิบัติงาน นานกว่า 7 เดือน รวมทั่วประเทศกว่า 800 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ จึงขอทวงถามไปยังกระทรวงสาธารณสุขว่า ทราบหรือไม่ว่า สพฉ. ค้างจ่ายเงิน ให้กับอาสาสมัครกู้ภัยนานกว่า 7 เดือน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สธ. ยืนยันว่า สธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เรียก สพฉ.มาสอบ ซึ่งพบว่า มีการใช้บริการหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับระบบบริหารจัดการที่ไม่ทันสมัย เนื่องจากใช้มาเป็นเวลานาน จึงเกิดความล่าช้าและล่ม ซึ่งพยายามแก้ไข และหลายส่วนสามารถกลับมาดำเนินการได้แล้ว โดยเฉพาะการกู้ข้อมูลกลับคืนมา ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และตัวระบบ จะแล้วเสร็จช่วงต้นเดือนตุลาคม จากนั้นจะผ่านกระบวนการรับรองในระดับจังหวัด ซึ่งว่าไม่เกินเดือนตุลาคม จะจ่ายได้ครบถ้วน พร้อมย้ำว่าเมื่อระบบกลับมาสมบูรณ์ การดำเนินการเบิกจ่ายจะสามารถทำได้ใน 30 วันเช่นเดิม
16.00 น.วันเดียวกัน สพฉ. ให้ข่าวอนุมัติแล้ว 70%
ได้เงินแล้ว 70% (ขาดอีก 30%)
ไทยสร้างไทย เราขอยืนยันจะเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่พี่น้องประชาชน
ต้องขอขอบคุณ
ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย แด๊ดดี้ปุ่น พร้อมทีมไทยสร้างไทย ที่อาสา ติดตาม ทวงถาม #ทวงหนี้เงินค้างจ่าย ให้ประชาชน