“สรเทพ ไทยสร้างไทย” สะกิดรัฐบาล เปิดฟรีวีซ่าให้อินเดีย ระบุ ประชากรใกล้เคียงจีน เดินทางเข้าไทย ติด 1 ใน 5 มาโดยตลอด พร้อมแนะเร่งออกวีซ่าพิเศษสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว Digital Nomad เพื่อขยายตลาดนักเที่ยวกลุ่มใหม่

ข่าวสาร

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช รองโฆษกและหัวหน้าคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวพรรคไทยสร้างไทย เสนอรัฐบาล เพิ่มเติมโดยให้เปิดฟรีวีซ่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเป็นกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตและมีสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆทั้งหมดโดยในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเข้ามาประเทศไทยถึง 1.9 ล้านคน และในปี 2566 สูงถึง 9 แสนคน

ที่สำคัญนักท่องเที่ยวอินเดียยังมองประเทศไทยเป็นจุดหมายที่อยากจะเดินทางมาเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมากเนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวครบครันไม่ว่าจะเป็นชายหาด สถานที่ช้อปปิ้งหรือสถานที่ท่องเที่ยวในยามค่ำคืนรวมถึงวัฒนธรรมต่างๆของประเทศไทยที่คล้ายคลึงกับประเทศอินเดียและประเทศไทยสามารถเดินทางมาเที่ยวได้โดยใช้เวลาเพียงแค่สามถึง 4 ชั่วโมงในการบินมาซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางที่ไม่ไกลสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย

รวมถึงกลุ่มตลาด Wedding ที่คู่รักชาวอินเดียนิยมมาจัดงานแต่งงานในประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมหาศาลเพราะค่าใช้จ่ายในการจัดงานในประเทศไทยจะประหยัดกว่าที่สำคัญการจัดงานของคู่แต่งงานชาวอินเดียจะจัดติดต่อกันเป็นเวลาห้าถึงเจ็ดวัน

รัฐบาลควรให้ฟรีวีซ่า ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดีย เหมือนกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีนด้วยเช่นกันในระยะเวลาเดียวกัน เพราะจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและ GDP ให้ประเทศไทยใน ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ได้

สุดท้ายกลุ่มตลาดใหม่ใหม่รัฐบาลควรจะมองแล้วเร่งผลักดันส่งเสริมโดยด่วน เช่นกลุ่ม Digital Nomad ซึ่งกลุ่มนี้จะเดินทางทำงานไปด้วยท่องเที่ยวไปด้วยโดยระยะเวลาในการให้วีซ่ากับกลุ่มนี้ต้องไม่ต่ำกว่าหกเดือนขึ้นไปซึ่งจะสามารถดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาจากทั่วโลกได้และจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวได้จากการที่ กลุ่มนักท่องเที่ยวนี้ พักอาศัยและบริโภคในประเทศไทยเป็นเวลานาน

“สรเทพ ไทยสร้างไทย” สะกิดรัฐบาล เปิดฟรีวีซ่าให้อินเดีย ระบุ ประชากรใกล้เคียงจีน เดินทางเข้าไทย ติด 1 ใน 5 มาโดยตลอด พร้อมแนะเร่งออกวีซ่าพิเศษสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว Digital Nomad เพื่อขยายตลาดนักเที่ยวกลุ่มใหม่

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช รองโฆษกและหัวหน้าคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวพรรคไทยสร้างไทย เสนอรัฐบาล เพิ่มเติมโดยให้เปิดฟรีวีซ่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเป็นกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตและมีสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆทั้งหมดโดยในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเข้ามาประเทศไทยถึง 1.9 ล้านคน และในปี 2566 สูงถึง 9 แสนคน

ที่สำคัญนักท่องเที่ยวอินเดียยังมองประเทศไทยเป็นจุดหมายที่อยากจะเดินทางมาเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมากเนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวครบครันไม่ว่าจะเป็นชายหาด สถานที่ช้อปปิ้งหรือสถานที่ท่องเที่ยวในยามค่ำคืนรวมถึงวัฒนธรรมต่างๆของประเทศไทยที่คล้ายคลึงกับประเทศอินเดียและประเทศไทยสามารถเดินทางมาเที่ยวได้โดยใช้เวลาเพียงแค่สามถึง 4 ชั่วโมงในการบินมาซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางที่ไม่ไกลสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย

รวมถึงกลุ่มตลาด Wedding ที่คู่รักชาวอินเดียนิยมมาจัดงานแต่งงานในประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมหาศาลเพราะค่าใช้จ่ายในการจัดงานในประเทศไทยจะประหยัดกว่าที่สำคัญการจัดงานของคู่แต่งงานชาวอินเดียจะจัดติดต่อกันเป็นเวลาห้าถึงเจ็ดวัน

รัฐบาลควรให้ฟรีวีซ่า ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดีย เหมือนกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีนด้วยเช่นกันในระยะเวลาเดียวกัน เพราะจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและ GDP ให้ประเทศไทยใน ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ได้

สุดท้ายกลุ่มตลาดใหม่ใหม่รัฐบาลควรจะมองแล้วเร่งผลักดันส่งเสริมโดยด่วน เช่นกลุ่ม Digital Nomad ซึ่งกลุ่มนี้จะเดินทางทำงานไปด้วยท่องเที่ยวไปด้วยโดยระยะเวลาในการให้วีซ่ากับกลุ่มนี้ต้องไม่ต่ำกว่าหกเดือนขึ้นไปซึ่งจะสามารถดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาจากทั่วโลกได้และจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวได้จากการที่ กลุ่มนักท่องเที่ยวนี้ พักอาศัยและบริโภคในประเทศไทยเป็นเวลานาน

ร่วมแบ่งปันนโยบาย:

Facebook
Twitter

ข่าวสารน่าสนใจอื่น ๆ

ข่าวสาร
แถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทย ฉบับที่ 2 เรื่องเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็...
ข่าวสาร
"ไทยสร้างไทย" ร่วมเชิดชูครูผู้เสียสละ พร้อมสนับสนุนการผลักดันเพิ่...
ข่าวสาร
"โฆษกไทยสร้างไทยแฉ ดีลลับคาสิโน ณ เกาะฮ่องกง ชวนประชาชนจับตา สุดส...
ข่าวสาร
แถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทย ฉบับที่ 2 เรื่องเ...
ข่าวสาร
"ไทยสร้างไทย" ร่วมเชิดชูครูผู้เสียสละ พร้อ...
ข่าวสาร
"โฆษกไทยสร้างไทยแฉ ดีลลับคาสิโน ณ เกาะฮ่อง...
ข่าวสาร
แถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทย คัดค้านโครงการเอ็...
ติดตามทางโซเชียลมีเดีย