แนะเร่งแก้ รธน.ให้เป็นประชาธิปไตย เสร็จภายใน2ปี ตามร่างที่ ไทยสร้างไทย เสนอเข้าสภาแล้ว ระบุหัวใจสำคัญคือการมีสสร.จากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นผู้ร่าง
ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ร่วมเสวนาวิชาการ บทเรียน 6 ตุลา การเมือง อำนาจ และความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจัดโดย โรงเรียนกฎหมายและการเมืองมหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดยกล่าวถึงสถานการณ์ การเมืองในปัจจุบันว่า การเมืองตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาไปสู่ประชาธิปไตยแบบสากล
พร้อมชี้ให้เห็นว่า อำนาจที่แท้จริงของประเทศยังอยู่ใน การกำหนดทิศทาง ของคนเพียงไม่กี่กลุ่ม ไม่ว่า จะเป็นขุนศึก นักการเมือง และนายทุน ดังนั้นจาก 6 ตุลาคม 2519 เป็นต้นมา จึงยังเห็นการต่อสู้ระหว่างพี่น้องประชาชนผู้ที่คาดหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลง กับกลุ่มอำนาจนิยม ที่ไม่ยินยอมจะปล่อยให้ประเทศเดินหน้า ตามวิธีทางประชาธิปไตย ไม่เคารพเสียงและอำนาจของประชาชน
ยังมีการสร้างวาทะกรรมที่ทำให้เกิดความแตกแยก ที่ซับซ้อนกว่าเดิม จากความแตกแยกของสีเสื้อ มาเป็นความเห็นต่างของช่วงอายุระหว่าง เด็กกับผู้ใหญ่ และ ความความแตกแยกระหว่างคนจนกับคนรวย
นักเรียน นิสิต นักศึกษา คนรุ่นใหม่ ซึ่งตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น กลายเป็นพลังใหม่ในการขับเคลื่อนการเมืองไทย ส่วนจะเกิดสถานการณ์ทางการเมืองที่เลวร้ายอีกหรือไม่ ตนมองว่า ขึ้นอยู่กับนักการเมือง ว่าจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ โดยเฉพาะการยอมรับ เสียงของประชาชนคนรุ่นใหม่ ความคิดความเห็นใหม่ๆ หรือไม่
.
[เมื่อถามว่ารัฐธรรมนูญควรจะเป็นอย่างไรจึงจะได้รับการยอมรับ ]
คุณหญิงสุดารัตน์ เห็นว่ารัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ต้องมาจากปลายปากกาของประชาชน มิใช่จากปลายกระบอกปืนของคนทำรัฐประหาร อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หัวใจสำคัญคือการคืนอำนาจให้ประชาชน เขียนรธน. ด้วยการเลือกตั้งส.ส.ร. จากประชาชน ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจ และเร่งทำตามคำมั่นสัญญา การแก้รัฐธรรมนูญ
ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย ตั้งใจเข้าไปเสนอแนวทางการแก้ รธน.ที่เร็วที่สุด และประหยัดที่สุด กับคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้น เพื่อเข้าไปชี้ให้เห็นว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาถึง 4 ปี ในการแก้รธน. และไม่จำต้องทำประชามติหลายครั้ง
โดยพรรคไทยสร้างไทยได้เสนอร่างแก้ไข รธน. เข้าสู่สภาฯแล้ว ให้มีการเลือกตั้งสสร.โดยตรง ไม่ต้องทำประชามติหลายครั้ง ให้เสียงบประมาณ เสียเวลา โดยไม่แก้หมวด 1 และ 2 ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ปี เท่านั้น จากนั้นควรจะยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งใหม่ หลังมีรธน.ฉบับใหม่