ดร.สุวดี พันธุ์พานิช คณะทำงานด้านสาธารณสุข และ นายวรวุฒิ โตวิรัตน์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ได้นำเหยื่อทั้ง 4 คน เข้าพบอัยการและรับการสืบพยานครั้งแรกที่ศาลอาญาใต้ ในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ของ สก.สาทร เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565
ดร.สุวดี กล่าวว่า “เรามีนัดพบกับอัยการเพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงสัปดาห์ก่อน เป็นเรื่องน่าตกใจที่ อัยการไม่ได้รับหลักฐานที่เป็นคลิปภาพและคลิปเสียงซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญต่อคดีจากพนักงานสอบสวน ซึ่งตนได้สอบถามไปยัง สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นสถานที่รับแจ้งความ ได้รับแจ้งว่าจำไม่ได้เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นมาปีกว่าแล้วและคอมพิวเตอร์ติดไวรัส หาหลักฐานไม่พบ โดยตนและโจทย์ทั้ง 4 ได้มอบหลักฐานอีกครั้งไว้กับอัยการเพื่อประกอบการดำเนินคดี ซึ่งอัยการกรุณาให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างดีเยี่ยมและถนอมสภาพจิตใจผู้เสียหายที่เป็นผู้เยาว์ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนพยายามเรียกร้องจากสังคมและสื่อมวลชนมาตลอด”
ดร.สุวดี “วันนี้เป็นการมาที่ศาลครั้งแรกของน้องๆ น่ากังวลมากที่ฝ่ายถูกกล่าวหามีความพยายามที่จะโน้มน้าวให้หลายฝ่ายเชื่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการจัดตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ขณะที่ตนได้รับข้อความขอความช่วยเหลือมาทางอินสตาแกรมจากเด็กคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยตนประสานงานต่อไปยังอาสาเส้นด้ายเพื่อร่วมกันให้ความช่วยเหลือให้เหยื่อปลอดภัย ตนขอวิงวอนให้ศาลเมตตาให้ความเป็นธรรมแก่เด็กและเยาวชนทั้ง 4 ในคดีเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างหากใครคิดใช้วิถีอำนาจความเป็นผู้ใหญ่ล่วงละเมิดเด็กและเยาวชน”
นายวรวุฒิ กล่าวว่า “ตนติดตามข่าวสารทางสื่อในช่วงเกิดเหตุมาตลอด แต่ไม่ได้ทราบรายละเอียดมากนัก เนื่องจาก ดร.สุวดีให้ความสำคัญกับการรักษาข้อมูลและสภาพจิตใจของน้องๆ คุณหญิงสุดารัตน์ได้แสดงความเป็นห่วง และ นต.ศิธา ทิวารีได้ให้ทนายส่วนตัวเป็นที่ปรึกษาคดี ที่ผ่านมาไทยสร้างไทยไม่เคยตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพราะไม่อยากให้เป็นประเด็นทางการเมือง จนขาดความสำคัญของการล่วงละเมิดผู้เยาว์ไป”
นายวรวุฒิ “ปัจจุบันนี้มีเด็กและเยาวชนเข้ามาให้ความสนใจเรื่องการเมืองเยอะมาก เนื่องจากการเมืองเป็นเรื่องของประชาชนทุกคน ดังนั้นขอฝากเตือนไปยังนักการเมืองทุกท่าน ว่าการที่มีน้องๆ เยาวชน เข้ามาชื่นชม ชื่นชอบเรา หรือเป็นกำลังใจให้เรานั้น ไม่ได้หมายถึงในเชิงชู้สาวแต่อย่างใด หรือถึงขั้นที่จะสามารถชวนน้องๆ ไปทำในสิ่งที่ต้องการได้ทุกเรื่อง จึงขอให้เรื่องนี้บทเรียนสำหรับนักการเมืองทุกท่าน และหวังว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เพื่อให้เวทีการเมืองเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้จริงๆ โดยเฉพาะน้องๆ เยาวชน จะได้ส่งกำลังใจให้นักการเมืองที่ชื่นชอบ ได้อย่างปลอดภัย และสร้างความสบายใจให้ผู้ปกครอง”
