[เบสท์ ย้ำ ไทยสร้างไทย หนุนกฎหมายสมรสเท่าเทียม
เบสท์ วงศไพโรจน์กุล รองโฆษก และคณะทำงานผู้มีความหลากหลายทางเพศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึง กรณีที่ประชุม ครม.โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบการผลักดันร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมเข้าสภาว่า หลังจากผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากหลายหน่วยงานและภาคส่วน เช่น ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศาลยุติธรรมแล้ว จะมีการตรวจสอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้น จะเสนอร่างนี้ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (พฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 66) หากได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภา จะทำให้คนเพศหลากหลายสามารถสมรสกันได้ และได้รับสิทธิ์อย่างเท่าเทียมทุกประการเฉกเช่นคู่รักชายหญิง
เบสท์ ย้ำว่าจุดยืนของพรรคไทยสร้างไทยคือการสนับสนุนคนตัวเล็ก และคนเพศหลากหลายให้ได้รับสิทธิ์อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม
[เชื่อ กลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ได้สิทธิเท่าเทียมทุกคน สร้างไทยให้เป็นจุดหมายของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ]
เบสท์ ระบุเพิ่มว่า ตลอดการต่อสู้ของการขับเคลื่อนสมรสเท่าเทียม ประเทศไทยมีร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 3 ร่าง ซึ่งมีความแตกต่างในรายละเอียดปลีกย่อย แต่มีใจความสำคัญที่เหมือนกันคือ คู่รักเพศเดียวกันจะได้สิทธิอย่างเท่าเทียมกับคู่รักทั่วไป และเบสท์เชื่อว่า หากกฎหมายผ่านร่างและประกาศใช้ได้จริง คนเพศหลากหลายจะได้สิทธิที่สำคัญหลายประการที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่คู่รักเพศหลากหลายควรจะต้องได้อย่างเท่าเทียม เช่น การรับบุตรบุญธรรม การรับมรดก การทำประกันชีวิต เป็นต้น
นอกจากนี้ ด้วยความพยายามของหลายฝ่ายที่อยากทำให้ประเทศไทยเป็น Destination หรือปลายทางของการท่องเที่ยวของเพศหลากหลาย จากความพยายามผลักดัน Soft Power ที่เกี่ยวข้องเช่น ซีรีส์วาย คาบาเร่ต์โชว์ หรือการเป็นเจ้าภาพงาน World Pride ในปี 2028 ที่สอดคล้องกับการทำให้งาน Bangkok Pride ซึ่งเป็นงานไพรด์ใจกลางกรุงเทพมหานครที่มีผู้ร่วมงานกว่า 100,000 คน เบสท์จึงย้ำว่าการพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมครั้งนี้จึงสำคัญมาก เพราะหากการผลักดันสำเร็จ ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมทางเพศจริงๆ
[ไทยสร้างไทย ขอผลักดันกฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติคู่ขนานกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อให้ความเท่าเทียมทางเพศเกิดขึ้นอย่างแท้จริง]
แต่ในพันธกิจของเบสท์และพรรคไทยสร้างไทย จะผลักดัน พ.ร.บ. ขจัดการเลือกปฏิบัติคู่ขนานไปกับ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม เพราะต่อให้สมรสเท่าเทียมจะเกิดขึ้นได้จริง แต่ถ้ายังมีการเลือกปฏิบัติ ตีตรา และไม่ยอมรับตัวตนและอัตลักษณ์ทางเพศเกิดขึ้นในสังคม ความเท่าเทียมทางเพศในไทยก็จะยังไม่นับว่าเป็นความเท่าเทียมที่แท้จริง ซึ่งเป็นหมุดหมายต่อไปที่เบสท์และพรรคไทยสร้างไทยจะขับเคลื่อนในอนาคตต่อไป