[ไทยสร้างไทย ชี้ หาก ส.ว. โหวตพิธาไม่ถึง 376 ประยุทธ์รักษาการต่อเรื่อยๆ]
ดร.โภคิน พลกุล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะอดีตประธานรัฐสภา มองว่า กรณีที่ประธานสภาเป็นพรรคก้าวไกล เมื่อถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี หากในครั้งแรกเสียง ส.ว. ไม่ถึงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด คำถามคือจะมีการโหวตในครั้งที่ 2 อีกหรือไม่ หากมีการโหวต จะโหวตอยู่ในกรอบระยะเวลาเท่าใด เพราะอำนาจอยู่ในมือของประธานรัฐสภา หรือจะมีการโหวตในครั้งที่ 3 หรือครั้งที่ 4 อีกหรือไม่ เมื่อมีการโหวตไปเรื่อยๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะทำหน้าที่รักษาการเรื่อยๆ ไปด้วยเช่นกัน
[หากก้าวไกลไม่ได้ประธานสภา อาจทำให้พิธาเป็นนายกได้ยากขึ้น]
ดร.โภคิน มองว่าการได้ตำแหน่งประธานสภาของพรรคก้าวไกล เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง ของพรรคที่มีเสียงมากที่สุด และอาจทำให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่านายพิธา จะได้รับการโหวต ในสภาให้เป็นนายกได้ แต่หากไม่ได้ตำแหน่งประธานสภา การคาดหวังถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ดูจะเป็นเรื่องยากขึ้น และหากให้คาดการณ์ สถานการณ์ เมื่อพรรคก้าวไกลไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ถึง 376 อาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้น สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากพรรคการเมืองนักการเมืองที่ไม่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
“ประเทศต้องเดินหน้าถูกต้องบนหลักการประชาธิปไตย ถ้าเราไม่ยืนบนหลักการให้ชัดเจน คนที่ไม่เคารพหลักการ ก็จะทำได้เรื่อยไป ก็จะคิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวหาวิธีพิเศษเลือกซื้องูเห่าก็ได้ การเมืองเป็นถึงขนาดนี้ได้อย่างไร แล้วประชาชนคนตัวเล็กจะอยู่ตรงจุดไหน” ดร.โภคินกล่าว
[หากเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย อาจนำประเทศเข้าสู่กลียุค]
ดร.โภคิน กล่าวว่า หากสถานการณ์ทางการเมืองบีบให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยอาจนำประเทศเข้าสู่กลียุค ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้อาจจะยังไม่ได้มาในช่วงแรก อาจจะเกิดขึ้น หลังจากนายพิธา ไม่ได้นายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องไปดูว่าพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างไร และจะเกิดกรณีคล้ายกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ หากวุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบ แคนดิเดตนายกจากพรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน ก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นด้วยหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังคง ทำหน้าที่รักษาการต่อไป
[ปัญหาทั้งหมด เกิดจากรัฐธรรมนูญ ต้องสร้างรัฐธรรมนูญประชาชน จาก ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้ง ปิดสวิตช์ ส.ว. ลากตั้ง ยุติการสืบทอดอำนาจเผด็จการ]
ดร.โภคิน เห็นว่าปัญหาสำคัญที่สุดของบ้านเมืองเวลานี้คือปัญหาจากรัฐธรรมนูญ มันคือกับดักที่ทำให้ประเทศเดินต่อไปอย่างยากลำบาก เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาไม่ให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง หรือหากชนะเลือกตั้งก็ไม่สามารถบริหารประเทศได้ จะต้องถูกตรวจสอบโดยวุฒิสมาชิก องค์กรอิสระ ดังนั้นฝ่ายประชาธิปไตย ต้องจับมือกันให้แน่นประคอง สถานการณ์ให้ผ่านพ้นไปถึงช่วงเดือนพฤษภาคมซึ่งวุฒิสมาชิกจะหมดวาระ และร่วมกันแก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญ
นำร่างเดิมมาปรับปรุง เชื่อว่าภายในไม่เกินสิ้นปีหน้า กระบวนการทุกอย่างจะจบทั้งหมด ประเทศก็จะสามารถเข้าสู่ ความเป็นประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์มากขึ้น และจะไม่มีใครมาสืบทอดอำนาจตามกติกาใหม่ได้ เพราะ ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่มีใครเป็นเจ้าของ จะไม่สามารถ ออกแบบกติกาเพื่อใครคนใดคนหนึ่งได้ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องร่วมมือกันให้สำเร็จ ซึ่งจะนำไปสู่ฉากทัศน์ใหม่ของประเทศไทย