นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และคณะทำงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องและ SME หนึ่งในคณะทำงานชุดเปลี่ยนผ่านรัฐบาล
เข้าร่วมประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยกับภาคเอกชน เพื่อดำเนินการในรัฐบาลใหม่ในอนาคต ที่ห้อง แลงคาสเตอร์ 1 โรงแรมแลงคาสเตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
[ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชี้ การท่องเที่ยว ต้องเป็นวาระแห่งชาติ เร่งแก้ปัญหาแหล่งทุน-เงินกู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด]
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่าการท่องเที่ยวต้องเป็นวาระแห่งชาติ เพราะกระทรวงการท่องเที่ยวไม่ได้ดูทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ใบอนุญาตต่างๆไม่มีการบูรณาการกันทำให้เกิดปัญหาในการทำงานต่างๆ เช่น ทั้งกระทรวงคมนาคมที่ดูแลเรื่องรถ เรือ การบิน รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดูแลเรื่องอุทยานแห่งชาติต่างๆ
นอกจากนั้นทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเสนอว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเร่งด่วนในตอนนี้คือปัญหาด้านแหล่งทุนและเงินกู้ เนื่องจากในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ที่มีการปล่อย Soft Loan นั้นปัจจุบันารท่องเที่ยวเพิ่งฟื้นตัว แต่ดอกเบี้ยนช่วงดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นสูงมากจนเกิดปัญหากับผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นกว่า 80% ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงปัญหาใบอนุญาตต่างๆด้วย
อีกปัญหาที่สำคัญคือปัญหาการกระจุกตัวของการท่องเที่ยวที่มีอยู่เพียงไม่กี่จังหวัด จะทำอย่างไรให้มีการกระจายออกไปยังจังหวัดอื่นๆ และอยากจะผลักดันให้มีการเพิ่มการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ๆออกไป เช่น การท่องเที่ยววัยเกษียณ LGBTQ+ และ Digital Nomads ซึ่งกลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายต่อหัวสูงมาก รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย
[หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ย้ำนโยบายกองทุนฟื้นฟูหนี้เสียเครดิตบูโร-กองทุนสร้างไทย-พักใบอนุญาต 1,400 ฉบับที่เป็นอุปสรรคการทำมาหากินของประชาชน]
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี กล่าวว่าปัญหาต่างๆ นั้น เห็นด้วยในทุกประเด็นว่าจะต้องแก้ไข โดยในประเด็นเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนนั้น พรรคไทยสร้างไทยมีนโยบายที่จะจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูหนี้เสียเครดิตบูโร และกองทุนสร้างไทยสำหรับการท่องเที่ยวที่จะเข้ามาดูแลเรื่องดอกเบี้ยและแหล่งเงินทุนให้ ในส่วนของอุปสรรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับใบอนุญาตนั้นทางพรรคเสนอให้มีการแขวนกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกว่า 1,400 ฉบับเอาไว้ก่อนเพื่อให้กลับมาทำธุรกิจได้ก่อน
ในประเด็นการเพิ่มรายได้และกระจายรายได้นั้น เห็นด้วยในเรื่องการแบ่งเป็นกลุ่มจังหวัดเพื่อที่จะกระจายรายได้ออกไปให้ไม่กระจุกอยู่เพียงไม่กี่จังหวัด และ การเพิ่มรูปแบบการท่องเที่ยวนั้นตนเห็นด้วยว่าต้องทำโดยเร็ว และไทยเองมีความพร้อมในเรื่องนี้อยู่แล้วแต่ต้องเพิ่มการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานเข้าไป และแก้ไขเรื่องวีซ่าเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้มากขึ้น รวมทั้งการจัดงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่เพื่อดึงการท่องเที่ยวกลับเข้ามา
และสิ่งหนึ่งที่พรรคไทยสร้างไทยอยากจะผลักดันคือการสร้างแพลทฟอร์มท่องเที่ยวที่บริหารโดยเอกชนเพื่อช่วยเหลือทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการให้ได้ราคาที่ดีที่สุดทั้ง 2 ฝ่าย ในส่วนของเรื่องความปลอดภัยนั้นตนเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการกับมาเฟียการท่องเที่ยวต่างๆ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดโดยเร็ว
[หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จี้ กกต.เร่งรับรองผลการเลือกตั้งโดยเร็ว คลายกับดักตั้งรัฐบาลเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ]
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นการรับรอง ส.ส. ที่ล่าช้า นายสุพันธุ์ กล่าวว่าการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล โดยยอมรับว่าการตั้งรัฐบาลช้าเป็นอุปสรรคในการลงทุนจากต่างประเทศ จึงฝากถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้รับรองผลการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทั่วไปอยากเห็น เพื่อเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ เช่น ด้านการท่องเที่ยว ในด้านของผู้ให้บริการก็ประสบปัญหาอย่างมาก ซึ่งต้องเร่งแก้กฎหมาย โดยพรรคไทยสร้างไทย ได้เตรียมร่าง พรบ.ที่จะพักการใข้ใบอนุญาตเสนอต่อสภาฯแล้ว รอแค่การเปิดประชุมสภาฯ
“ต้องถาม กกต.ว่า จะรับรองได้จริงหรือไม่ เพราะมีกับดักเยอะมาก ทั้ง สว.อีก กล่บเป็นว่าทั้งหใดไม่ได้อยู่ที่พรรคที่ชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้ามีการคลายกับดักตรงนี้ตั้งรัฐบาลในเดือนกรกฎาคมก็ทัน ตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลพร้อมที่จะตัดตั้งรัฐบาลและเดินหน้าทำงานแล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ขอให้เปิดทางให้มีการตั้งรัฐบาลสักที”
ส่วนในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ พรรคไทยสร้างไทย จะเป็นเจ้าภาพในการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคได้เตรียมข้อมูลเขิงนโยบายมานำเสนอ หลังจากมีการตั้งคณะทำงานชุดต่างๆ พร้อมยืนยันว่า 312 ยังเหนียวแน่น พร้อมเป็นรัฐบาล และจะคุยกันว่าหลังจากได้เป็นรัฐบาลแล้วจะมีแนวทาง ในการดำเนินนโยบาย อย่างไร ส่วนเรื่องตำแหน่ง แม้เป็นพรรคเล็กแต่พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้เน้นเรื่องตำแหน่ง แต่ให้ความสำคัญกับการทำผลงานมากกว่า