วันนี้ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ร่วมอภิปรายสนับสนุนพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) วาระโหวตเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
โดย ฐากร อภิปรายในนามพรรคไทยสร้างไทย พร้อมชี้แจงเรื่องการจัดทำ MOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยระบุว่า หลังการเลือกตั้ง 8 พรรคการเมืองได้ร่วมหารือกันจัดตั้งรัฐบาล จนมาสู่การลงนาม MOU
[ยืนยันแล้ว ยืนยันอยู่ ยืนยันต่อ พรรคร่วมคุยแต่แนวทางการพัฒนาประเทศเท่านั้น]
ในการเจรจากันทุกครั้ง พรรคไทยสร้างไทยไม่เคยมีการเจรจาใดๆ เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 มีเพียงแนวทาง 23 ข้อ ในการพัฒนาปรับปรุงเศรษฐกิจ เดินหน้าประเทศเท่านั้น และในวันที่ 22 พ.ค. ซึ่งหลายฝ่ายได้พาดพิงในจุดยืน ก่อนลงนาม MOU มีการยกร่างคำปรารภ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญยิ่ง ระบุว่า:
“ทุกพรรคเห็นร่วมกันกับภารกิจของรัฐบาล ที่การผลักดันจะไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และการดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่สักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้”
ฐากร ย้ำจุดยืนของพรรคไทยสร้างไทยดังกล่าว หาก 7 พรรคร่วมรัฐบาลเห็นต่างสามารถโต้แย้งได้ เพราะต่างอยู่ในที่ประชุมด้วยกัน และไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 แต่อย่างใ
[ไทยสร้างไทย ย้ำจุดยืน โหวตพิธาเป็นนายก เคารพฉันทามติประชาชน]
นอกจากนี้ ฐากร ยังกล่าวว่า วันนี้พรรคไทยสร้างไทยจะขอเลือกพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ต่อให้พรรคก้าวไกลเสนอชื่อบุคคลอื่นทีไม่ใช่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคไทยสร้างไทยก็จะเลือกคนที่พรรคพรรคก้าวไกลเสนอเช่นเดิม
เพื่อยืนยันหลักการและเคารพฉันทามติประชาชน โดยยืนยันว่า ส.ส. พรรคไทยสร้างไทย ทั้ง 6 คน พร้อมโหวตนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีแตกแถว