อดีต สส.ชวลิต วิชยสุทธิ์ พรรคไทยสร้างไทย อดีตประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อุ้มหาย ได้ร่วมรำลึก #วันมนุษยธรรมโลก ซึ่งตรงกับทุกวันที่ 19 สิงหาคม โดยได้เล่าถึงคราวทำหน้าที่ประธาน กมธ.พิจารณากฎหมายอุ้มหาย ซึ่งถือเป็นกฎหมายด้านมนุษยธรรม ที่จะปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไว้อย่างน่าสนใจ
.
[ที่มาและเบื้องหลัง ของ พ.ร.บ.อุ้มหาย]
.
อดีต สส.ชวลิต อธิบายถึงที่มาของตรากฎหมายฉบับนี้ว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่บุคคลที่เคลื่อนไหวทางการเมืองหรือนักต่อสู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อมหายตัวไปอย่างลึกลับ จึงมีการริเริ่มตรากฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือเรียกโดยทั่วไปว่า พ.ร.บ.อุ้มหาย เพื่อให้เป็นไปตามอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี”
.
[ทำอย่างไรกฎหมายฉบับนี้ ถึงได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย]
.
อดีต สส.ชวลิต กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ สส.ฝ่ายค้าน ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายที่สำคัญ เพราะปกติตำแหน่งนี้จะเป็นของ สส.ฝ่ายรัฐบาล
โดย อดีต สส.ชวลิต ได้ให้เกียรติและเคารพทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และ สว. โดยได้เข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอคำแนะนำ และมีการทำงานร่วมกับ สว. เพื่อปรับแก้ร่างกฏหมายให้เป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย จนทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาของ สส. และ สว. สำเร็จในที่สุด
.
[คาดหวังการเปลี่ยนแปลงใด จากกฎหมายฉบับนี้]
.
อดีต สส.ชวลิต กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นการแก้ไขสิ่งที่ปฏิบัติมาช้านาน เช่น กำหนดให้มีกล้องบันทึกภาพขณะจับกุม ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตหลุดพ้นข้อกล่าวหา รวมทั้งสามารถรักษาสิทธิเสรีภาพของประชาชนด้วย
.
[ในฐานะที่ทำงานด้านกฎหมายเพื่อมนุษยธรรม อยากผลักดันอะไรให้เกิดขึ้นอีก]
.
อดีต สส.ชวลิต กล่าวว่าอยากผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และกำหนดให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดไม่หาวิธีการช่องว่างของกฎหมายไปดำเนินการในสิ่งที่จะไม่รักษาผลประโยชน์หรือแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน ถ้าทุกฝ่ายทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาและสุจริต จะทำให้กฎหมายอุ้มหายถูกบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง ถูกต้อง และยาวนานตลอดไป