ช่วงนี้เราจะได้ยินข่าวเปิดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ รวมถึงการลักลอบเล่นการพนันอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ แบบก้าวกระโดด
รายงานศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ประจำปี 2565 ระบุว่า นักพนันออนไลน์ปี 2564 มีมากถึง 1.947 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 135.8% หรือเพิ่มประมาณ 1.121 ล้านคน และวงเงินหมุนเวียนในตลาดพนันบ่อนออนไลน์ ก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 431.3% หรือเพิ่มขึ้น 86,926 ล้านบาท มาอยู่ที่ 107,078 ล้านบาท นับเป็นประเภทการพนันที่มีการขยายตัวสูงที่สุดในปี 2564 ทั้งจำนวนนักพนัน และวงเงินหมุนเวียนรวม
ภัชริ นิจสิริภัชและเจตุบัญชา อำรุงจิตชัย คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย ชี้ว่า ด้วยเม็ดเงินมหาศาล และกฎหมายที่เปิดช่องให้เป็นผู้ใช้ดุลพินิจทำให้ผู้ที่ต้องทำหน้าที่ในการควบคุมดูแลอาจหลงผิดเข้าไปร่วมในขบวนการเหล่านี้ และบางครั้งมาในรูปของ #ส่วย#ทุนเทา
ภัชริ เห็นว่าในทางเศรษฐกิจ รัฐไม่สามารถเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย ทำให้ต้องจัดงบประมาณแบบขาดดุล สะสมทุกปี จึงเห็นว่า หากดำเนินการ ทำให้การพนันถูกกฎหมาย จัดระเบียบให้ดี ทำเหมือนประเทศที่มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้สามารถจัดเก็บภาษีเข้ารัฐ นำมาพัฒนาประเทศได้
“อย่าไปโลกสวย วันนี้สถานการณ์มันหนักมากพอแล้ว เมื่อไม่กำกับดูแล ไม่มีกฎหมายควบคุม มันก็เละเทะ เด็ก ผู้ใหญ่ สารพัดอาชีพ เล่นพนันได้หมดถึงแม้จะทำถูกต้อง ก็อาจจะไม่หมดสิ้นไป แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อยก็มีรายได้เข้ารัฐมหาศาล เสียเวลาแก้ปัญหาปลายเหตุ จับไม่มีหมดสิ้น ดังนั้นรัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจทำให้ถูกต้อง มีรายได้ มีเงินเข้ารัฐ ดีกว่าเข้ากระเป๋าคนไม่กี่กลุ่ม”
ด้านเจตุบัญชา เห็นว่า รัฐบาลต้องหันมา ศึกษาและเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ แบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะ1 เสนอ เมืองผ่านอย่าง ประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นเป็น Sandbox เนื่องจากมีภูมิศาสตร์ ที่พร้อม สวยงาม สงบ มีทะเล สามารถปรับเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ดีได้ ต่างชาติจะเข้ามา ต้องเข้า กทม. และเดินทางมาเล่นพนันที่ จ.ประจวบฯ ระหว่างทาง กระตุ้นการท่องเที่ยวการใช้จ่ายได้ สามารถแวะพักผ่อนที่หัวหินก่อน
ระยะ 2 หาจุดยุทธศาสตร์ ที่เป็นเมืองรอง และมีสนามบิน เพื่อทำ Sandbox กระตุ้นเมืองรอง
ระยะ 3 ทดลองเปิดให้ #นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น ที่สามารถเล่นพนันได้ก่อนเพื่อลดแรงเสียดทานเรื่องการมอมเมาประชาชน พร้อมเพิ่มอัตราจ้างงานในจังหวัดเมืองรอง เพื่อดึงเงินใต้ดิน ขึ้นมา จัดเก็บภาษี ได้มหาศาล
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎร ได้เคยตั้ง กมธ. วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร และจากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน โดยวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พบว่า ประชาชน 80.67% สนับสนุนให้เปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศไทย และ 36.38% สนับสนุนให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย รัฐจึงควรนำ ประเด็นนี้มาศึกษาอย่างต่อเนื่อง และพิจารณาการทำโครงการให้เป็นรูปธรรม