[คุณหญิงสุดารัตน์ ชี้ มาตรการแก้หนี้นอกระบบของนายก ไม่มีอะไรใหม่ แนะตั้ง KPI ใช้กฎหมายเข้มงวด จัดการคนมีสีให้เด็ดขาด]
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงมาตรการแก้หนี้นอกระบบที่นายกรัฐมนตรีแถลง ว่าไม่มีอะไรใหม่พอที่ประชาชนจะพึ่งพาได้ ซึ่งส่วนตัวก็ดีใจที่รัฐบาลมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาหนี้สินถือเป็นสิ่งดี แต่มาตราการที่แถลงยังเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการที่นำมาใช้ยังเป็นรูปแบบเดิมๆ ซึ่งมีกฎหมายบังคับใช้อยู่แล้ว ทั้งการทวงหนี้โหด และการปล่อยกู้ดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
จึงขอฝากนายกรัฐมนตรี ว่าต้องตั้ง KPI เจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานราชการ เพื่อบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเข้มงวด และจัดการกับ คนมีสี เจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านี้อย่างเด็ดขาด
ส่วนมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน และเห็นผล นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ให้ความชัดเจนต่อสังคม ว่าจะแก้ไขอย่างไร
[วอนนายกเปิดใจนำนโยบาย #กองทุนคนตัวเล็ก ของไทยสร้างไทยไปใช้ แก้หนี้นอกระบบที่ต้นตอ คือ ให้ประชาชนเข้าถึงแหล่เงินทุน]
พรรคไทยสร้างไทย ได้เสนอ แนวคิดไปหลายครั้งว่า ต้นตอของปัญหาหนี้นอกระบบคือประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงแหล่งทุน เช่นเกษตรกร พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอย กระทั่งนักศึกษาจบใหม่ จึงต้องไปกู้หนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยแสนโหด สูงถึง ร้อยละ 20 ต่อเดือนหรือเท่ากับ 240 % ต่อปี ขณะที่คนรวย สามารถกู้เงินในระบบผ่านธนาคารได้ดอกเบี้ยเพียง3 ถึง 6% ต่อปี แล้วเราจะแก้จนได้อย่างไร หนี้นอกระบบจึงเป็นเพียงแหล่งทุนเดียวของคนตัวเล็ก
ดังนั้น รัฐบาลจึงควรที่จะ “แจกเครดิต” ให้กับประชาชน มิใช่มุ่งเพียงการแจกเงินเท่านั้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และเงื่อนไขผ่อนปรน เพื่อนำเงินไป ประกอบอาชีพสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างงาน สร้างรายได้
[กองทุนเครดิตประชาชน ให้โอกาสคนตัวเล็กทำมาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัว สร้างอาชีพยั่งยืน]
โดยพรรคไทยสร้างไทยได้เสนอ “กองทุนเครดิตประชาชน” หรือ “กองทุนคนตัวเล็ก” เพื่อให้เครดิตกับประชาชน ได้มีทุนตั้งตัว ในอัตราดอกเบี้ยต่ำโดยประชาชนสามารถกู้ได้ตั้งแต่ 10,000 บาท หากรักษาเครดิตได้ดี ภายในระยะเวลา 6 เดือนสามารถกู้เพิ่มเติมได้ เป็น 50,000 บาท จนถึง 1 แสนบาท ซึ่งจะเป็นการให้โอกาส คนตัวเล็ก ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำเงื่อนไขผ่อนปรนเพื่อนำเงินไปลงทุน ในการสร้างเนื้อสร้างตัว สามารถทำมาหากินได้ สร้างงานสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน
ซึ่งรัฐบาลสามารถจัดสรรงบประมาณ โดยแบ่งจากเงินกู้ 6 แสนล้านบาท มาใช้ใน กองทุนดังกล่าวประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งไม่ใช่เป็นการแจกเงินแต่เป็นการให้ประชาชนยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
จึงขอให้นายกรัฐมนตรี ได้เปิดใจพิจารณานโยบายที่เป็นประโยชน์ เพื่อการแก้หนี้นอกระบบอย่างยั่งยืนของพรรคไทยสร้างไทยไปใช้ ซึ่งเรามั่นใจว่า “กองทุนเครดิตประชาชน” ซึ่งจะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้อย่างเป็นรูปธรรม พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง โดยที่รัฐบาล ไม่ต้องแบกรับภาระหนี้สิน หรือเสี่ยงเดินหน้าทำนโยบายที่อาจขัดต่อ กฎหมายวินัยการเงินการคลังและรัฐธรรมนูญ