นายทิวากร สุระชน กรรมการบริหารและรองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลโครงการก่อสร้างของหน่วยงานภาครัฐที่ถูกทิ้งร้าง หรือสร้างไม่เสร็จอย่างเป็นระบบ พบว่ามีจำนวนมากทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และในบางกรณีอาจมีการทุจริตเกี่ยวข้องโดยตรง
.
หนึ่งในตัวอย่างชัดเจนคือ โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงาน กสทช. แห่งใหม่บนถนนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ที่ใช้งบประมาณสูงถึง 2,643 ล้านบาท แต่ถูกปล่อยร้างมานานหลายปี แม้จะจ่ายค่าก่อสร้างไปแล้วถึง 1,598 ล้านบาท หรือกว่า 60% ของงบประมาณทั้งหมด ปัญหาสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร และการไม่อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมของคณะกรรมการชุดใหม่ จนนำไปสู่การยกเลิกสัญญาและการฟ้องร้องระหว่างหน่วยงานรัฐกับเอกชน
นอกจากนี้ ยังพบว่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่จังหวัดพะเยาและร้อยเอ็ด ก็มีอาคารสำนักงานที่ถูกทิ้งร้าง ทั้งๆ ที่ใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 70 ล้านบาท และดำเนินการมาแล้วกว่า 2 ปี แต่กลับหยุดชะงักจากกรณีผู้รับเหมาทิ้งงาน โดยไม่มีความคืบหน้าใด ๆ และไม่มีความชัดเจนว่าจะมีผู้รับเหมาใหม่เข้ามาดำเนินการต่อเมื่อใด
.
ยังไม่รวมถึง โครงการสนามกีฬาของกรมพลศึกษา, ศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP, โครงการระบบประปาหมู่บ้าน และสิ่งก่อสร้างของราชการอีกหลายแห่งโดยเฉพาะหน่วยงานราชการระดับจังหวัดหรือชุมชน ที่ยังไม่แล้วเสร็จ หรือสร้างแล้วไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ โดยสาเหตุหลักยังคงวนเวียนอยู่กับการบริหารจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ การทุจริต การทิ้งงานของผู้รับเหมา และปัญหาทางกฎหมายที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
.
“นี่คือการทำลายงบประมาณของประเทศอย่างชัดเจน ประชาชนเสียภาษีให้รัฐเพื่อพัฒนาประเทศ แต่กลับเห็นอาคารและโครงการต่าง ๆ ที่ใช้เงินภาษีจำนวนมากถูกทิ้งร้าง รกร้างว่างเปล่า และไร้ประโยชน์ นี่คือความสูญเปล่าที่ประชาชนไม่ควรต้องแบกรับ” นายทิวากรกล่าว
.
พรรคไทยสร้างไทย ขอเสนอแนวทางเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหา ดังนี้
- เปิดเผยข้อมูลการใช้งบประมาณอย่างโปร่งใส
ตรวจสอบผ่านระบบ govspending และฐานข้อมูลของรัฐ พร้อมเผยแพร่รายชื่อโครงการที่ล่าช้า/ร้างต่อสาธารณชน
- เรียกร้องให้หน่วยงานตรวจสอบภาครัฐ เช่น สตง. หรือ ป.ป.ช. เร่งดำเนินการ
โดยเฉพาะในกรณีที่พบว่าโครงการมีงบประมาณสูงผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงต่อการทุจริต ให้ดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและภาคเอกชน
- อภิปรายในสภาเพื่อกดดันรัฐบาล
ยกกรณีตึก กสทช. และสิ่งปลูกสร้างของ สตง. เป็นตัวอย่างเพื่อให้รัฐบาลชี้แจงต่อสาธารณชน และเร่งแผนฟื้นฟูหรือใช้ประโยชน์ในโครงการเหล่านี้
- ปฏิรูประบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
สร้างระบบคัดกรองผู้รับเหมาที่มีคุณภาพ มีหลักประกันเพื่อป้องกันการทิ้งงาน พร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าโครงการแบบเรียลไทม์
- ให้ประชาชนและสื่อมวลชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ
สนับสนุนให้เกิด “เครือข่ายภาคประชาชน” ในการตรวจสอบโครงการที่ใช้งบประมาณรัฐ พร้อมเผยแพร่รายงานความคืบหน้าต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง
“เราไม่สามารถปล่อยให้ประเทศมีตึกร้างมากมายเช่นนี้ต่อไปได้ โดยเฉพาะเมื่อหลายโครงการใช้งบประมาณมหาศาล หากมีความผิดพลาดทางนโยบาย ต้องชี้แจง หากมีการทุจริต ต้องลงโทษ และหากยังใช้ประโยชน์ได้ ต้องเร่งรัดฟื้นฟูโดยไม่รีรอ” นายทิวากร กล่าว