นายชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ให้ความเห็นในการประชุมคณะกรรมาธิการ ฯกรณีกรมราชทัณฑ์ ปปส. กรมคุมประพฤติ กรมพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้มาชี้แจงเหตุผลในการของบประมาณเพื่อไปดำเนินการตามภารกิจได้ตั้งข้อสังเกตกรณีกรมราชทัณฑ์แจ้งจำนวนผู้ต้องขังปัจจุบันมีจำนวน 276,466 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติดจำนวน206,080 คน คิดเป็น 75% ของผู้ต้องขังทั้งหมด ที่เหลือเป็นคดีทั่วไป จำนวน 70,386 คน จากตัวเลขผู้ต้องขังคดียาเสพติด มีจำนวน 75% ของผู้ต้องขังทั้งหมด สะท้อนถึงปัญหาของชาติที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขในเรื่องปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง
ประการสำคัญ ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขของผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ แต่ตัวเลขของผู้ที่ติดยาเสพติดและค้ายาเสพติดตามตำบล หมู่บ้านต่าง ๆ ทั่วประเทศ คาดการณ์ไม่ถูกว่ามีจำนวนเท่าใด แต่ประเมินได้ว่าต้องมีจำนวนมากกว่าในเรือนจำหลายเท่าตัว เห็นได้จากมีการจับผู้ค้ายาเสพติดได้จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งผู้ติดยาเสพติดที่ถึงขั้นคลั่งยาเกิดขึ้นตามตำบล หมู่บ้านต่าง ๆ ทั่วประเทศ เกิดขึ้นเป็นรายวัน
ผมจึงขอเรียกร้องมายังรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ควรกำหนดมาตรฐานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยการบูรณาการกับกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง ทั้งในการป้องกัน ปราบปราม บำบัด ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดโดยมีตัวชี้วัดในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระดับหมู่บ้าน ตำบล ทั้งนี้ ควรมีการประกาศหมู่บ้านสีขาวเพื่อเป็นแรงจูงใจของคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านให้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในหมู่บ้านของตนเองเพื่อนำไปสู่การประกาศเป็นหมู่บ้านสีขาว
สำหรับการบำบัด ฟื้นฟู ผู้ติดยาเสพติด มีหลายหน่วยขอรับการสนับสนุนงบประมาณ กระทรวงสาธารณสุขควรกำหนดมาตรฐานการบำบัด ฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ที่เข้าโครงการ ฯ มีสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ที่จะกลับมาเสพยาเสพติดน้อยที่สุด
.
สุดท้าย ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล ขอให้จัดลำด้บความสำคัญของการแก้ไขปัญหายาเสพติดอยู่ในลำดับต้น ๆ ของปัญหาประเทศ ด้วยการสนับสนุนทรัพยากรแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างพอเพียง โดยเฉพาะจากงบกลาง เพราะหากเยาวชน และประชาชนติดยาเสพติดจำนวนมากเช่นนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการฉุดรั้งการพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน และจะสายเกินแก้หากเยาวชนและประชาชนขาดคุณภาพเพราะยาเสพติด