นายรณกาจ ชินสำราญ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย กล่าวเตือนรัฐบาลถึงกรณีที่ ภาระหนี้ภาคพลังงาน ทะลุ 220,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกองทุนน้ำมัน 90,000 ล้าน และหนี้ค่าไฟอีก 130,000 ล้าน
.
ในช่วงเวลา 6 เดือนหลังรัฐบาลเข้ามาทำงาน นายกฯทำนโยบายประชานิยมสร้างคะแนนให้ตัวเอง จนหนี้กองทุนน้ำมันเพิ่มสูงอย่างไม่น่าเชื่อถึง 2 เท่า กลายมาเป็น 90,000 ล้าน ใกล้จะทะลุเพดานหนี้ ที่ 110,000 ล้าน
.
การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนในช่วงวิกฤตเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรคิดให้รอบด้าน ไม่ใช่ลดแลกแจกแถม แต่ไม่มีกระบวนการที่เหมาะสมรองรับ เช่นการลดค่าน้ำมัน หรือลดค่าไฟ สร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง จนเป็นเหตุให้หนี้จากการเข้าไปอุ้มค่าพลังงานใกล้ทะลุเพดาน ประเทศจึงเสี่ยงต่อความเสียหายและกลายเป็นภาระของประชาชนได้
.
รัฐบาลโดยนายเศรษฐา บอกว่าปัจจุบันเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ แต่ในความเป็นจริง เมื่อรวมการชดเชยอุดหนุนค่าพลังงานจากรัฐ จะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อที่แท้จริงสูงกว่าที่รัฐบาลประกาศไว้มาก ซึ่งถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่รัฐเลิกอุดหนุน ก็จะทำให้ฝีแตก ส่งผลร้ายต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว
.
ตนในฐานะประชาชน อยากขอให้นายกฯเร่งทบทวนนโยบายพลังงาน การตรึงราคาไม่ใช่คำตอบ การปรับโครงสร้างด้านพลังงานต่างหาก คือคำตอบ แต่ที่ผ่านมา นายกฯได้แต่ทำประชานิยม แต่ไม่กล้าแตะต้องที่ต้นเหตุ คือโครงสร้างพลังงาน ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่า นายกฯที่มีอำนาจเต็มมือเกรงใจใคร เกรงใจนายทุนใหญ่หรือหน่วยงานใดที่ได้ผลประโยชน์กับเรื่องนี้หรือไม่ ?
.
พรรคไทยสร้างไทยเอง ที่เรียกร้องเรื่องการลดภาษีสรรพสามิตมาตลอด เพราะปัจจุบันรัฐเก็บภาษีตรงนี้ประมาณลิตรละ 5 บาท สามารถลดลงได้อีก 2 บาท จะทำให้ต้นทุนพลังงานลดลง
.
และขอให้อย่าไปคิดว่าจะเป็นภาระทางการคลังจากการลดภาษีสรรพสามิต เพราะภาระทางการคลังที่แท้จริง คือการที่รัฐบาลสร้างหนี้ หรือบริหารประเทศให้ขาดทุนจากนโยบายประชานิยมสร้างคะแนนนิยมให้ตัวเองต่าง