นายวรวุฒิ โตวิรัตน์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ประเทศไทยประสบปัญหาจำนวนเด็กเกิดใหม่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าในปี 2566 มีจำนวนการเกิดต่ำกว่า 500,000 คน และมีจำนวนการเสียชีวิตมากกว่า 600,000 คน ทำให้เห็นว่าจำนวนประชากรไทยเริ่มลดลง และมีอัตราการเกิดและการตายไม่สมดุลกัน
ขณะที่จำนวนผู้สูงอายุยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแตะร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ซึ่งทำให้มีจำนวนประชากรเข้าสู่วัยแรงงาน อายุ 20-24 ปี น้อยและไม่สามารถชดเชยจำนวนประชากรที่ออกจากวัยแรงงาน อายุ 60-64 ปีได้
แม้รัฐบาลจะทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังไม่มีความพร้อมในการรับมือ มีเพียงนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาชวนคนไทยมีบุตร โดยออกมาตรการที่สร้างความฮือฮา อย่าง ‘ปั๊มลูกกู้ชาติ’ แต่ไร้ซึ่งนโยบายส่งเสริม เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่สร้างแรงจูงใจให้แต่ละครอบครัวอยากมีบุตรเพิ่มมากขึ้น
นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่าปัจจุบันการเพิ่มจำนวนการเกิดจากผู้ที่มีความพร้อม หรือจากคนไทยเพียงอย่างเดียวอาจไม่ทันต่อการรับมือกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคต การให้ความสำคัญกับทุกการเกิดในประเทศ เป็นสิ่งสำคัญหรือการเริ่มศึกษาการแก้ไขกฏหมาย ‘อุ้มบุญ’ อย่างจริงจัง เพื่อเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับแก้ไขปัญหานี้ และไม่ว่าจะเลือกมาตรการใดรัฐบาลควรเป็นผู้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
เพื่อให้เกิดความชัดเจน ในการส่งเสริมการมีบุตร พัฒนาศักยภาพคนโสดรุ่นใหม่ ให้มีทัศนคติเชิงบวกต่อการมีบุตร มีสิทธิประโยชน์ และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับคนอยากมีบุตร ทั้ง ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีบุตร, มีสวัสดิการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร, พัฒนาให้เกิดความเท่าเทียมด้านการศึกษา, ส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการเด็ก, มีมาตรการดูแลผู้มีบุตรครบวงจร รวมถึงการดูแลรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก