นายชัชวาล แพทยาไทย สส. ร้อยเอ็ดพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะกรรมาธิการการเกษตรสภาผู้แทนราษฎร พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มีความห่วงใย ต่อสถานการณ์ที่หลายจังหวัดในภาคเหนือ ยังคงประสบปัญหาไฟป่า ซึ่งวานนี้พบจุดความร้อนทางภาคเหนือกว่า 470 จุด
จังหวัดที่มีจุดความร้อนมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ 109 จุด จังหวัดตาก 90 จุด และจังหวัดแม่ฮ่องสอน 76 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์, ป่าสงวนฯ และ เขต ส.ป.ก. ซึ่งส่งผลทำให้ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งควบคุม แต่ขอให้คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย หลังมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เกิดขึ้น
ข้อมูลจากอาสาสมัครดับไฟป่าและหน่วยงานของรัฐพบว่า สถานการณ์ไฟป่าส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือมนุษย์ โดยเฉพาะในฤดูแล้งซึ่งเป็นฤดูกาลที่ต้องเตรียมพื้นที่สำหรับทำการเกษตร โดยจุดพีคของไฟป่าคือเดือนเมษายนเป็นต้นไปเพราะความชื้นความร้อนถูกสะสมจนเกิดความเหมาะสม เมื่อมีการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เกิดขึ้น จึงทำให้ไฟลุกลามขยายตัวแบบทวีคูณ ได้ถึง 10 เท่า ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากปัญหาแล้ว พรรคไทยสร้างไทยเห็นว่า การแก้ไขปัญหา จะต้องดำเนินการที่ต้นเหตุ นั่นคือการควบคุมหรือการยุติการเผา
พรรคไทยสร้างไทย ขอถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า การปลูกพืชบนที่ลาดเชิงเขา ซึ่งนิยมทำกันมากในพื้นที่ภาคเหนือนั้น จะมีมาตรการอย่างไร จึงจะหยุดการเผาได้ ควรส่งเสริมการปลูกไม้ทางเศรษฐกิจ และไม้มีค่ามากขึ้นหรือไม่ ซึ่งยังไม่เห็นแผนงานในส่วนนี้จากภาครัฐ ทั้งที่เรื่องเหล่านี้ สามารถเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาได้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ขณะเดียวกันยังไม่ห็นยุทธศาสตร์ ที่จะทำให้ประเทศไทยได้ป่าเพิ่มขึ้นได้คาร์บอนเครดิตเพิ่มขึ้น อันจะนำมาซึ่งการส่งเสริมให้คนตัวเล็กหรือ เกษตรกรมีรายได้ดีขึ้นด้วย
พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่ารัฐบาลต้องมีมาตรการเพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พร้อมกับการสนับสนุนเครื่องมือให้เกษตรกร นำไปปรับปรุงพื้นที่ปรับปรุงดิน ปรับปรุงพื้นที่รองรับการทำเกษตร ซึ่งบริหารประเทศมากว่า 6 เดือนแต่ยังไม่เห็นความชัดเจนจึงอยากถามว่าจะรอถึงเมื่อใด จะต้องให้คนไทยตายผ่อนส่งไปอีกนานเท่าใด
ทั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทย ขอเชิญชวนอาสาสมัคร ทั้งในส่วนของภาคประชาชน หน่วยงานของรัฐ หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ร่วมใจหยุดไฟป่า รณรงค์ให้ยุติปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง เพราะหากปล่อยปละละเลย จะก่อให้เกิดผลกระทบระยะยาว ต่อประเทศ ทั้งในแง่ของสุขภาพและเศรษฐกิจโดยรวม จึงวิงวอนทุกภาคส่วน ร่วมปักธงหยุดไฟป่าไปพร้อมกัน