“รณกาจ ไทยสร้างไทย” ตั้งคำถาม เศรษฐา บริหารประเทศอย่างไร ทำ GDP โตต่ำสุดในภูมิภาค ค่าครองชีพโตแซงรายได้ ชี้การลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ยังไม่เห็นผลตามเทคนิคหาเสียง ซ้ำยังกู้เก่ง ทำคนไทยรานได้หด หนี้ครัวเรือนพุ่ง สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ข่าวสาร

นายรณกาจ ชินสำราญ รองเลขาธิการพรรค และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงภาพรวมหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยว่า พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องปัจจุบันขยับมาแตะระดับ 91.3% ของจีดีพี หรือประมาณ 16.3ล้านล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากที่เคยอยู่ในระดับ 76% เมื่อปี 2555 ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย 80% ซึ่งเป็นระดับที่ประเมินแล้วว่า น่าจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจไทยมากที่สุด
.
ทั้งนี้ 28% ของหนี้ครัวเรือนไทยที่ 16.3 ล้านล้านบาทเป็นการกู้ไปกินไปใช้หรือที่เรียกว่าบริโภค ซึ่งต้องนำรายได้ในอนาคตมาผ่อนจ่าย คำถามสำคัญคือหากรายได้เหล่านั้นไม่มาตามนัด ก็อาจกลายเป็นปัญหาหนี้สะสมเกินศักยภาพ
.
สิ่งที่น่ากังวลคือ ตัวเลขหนี้เสียที่ทะลักสูงถึง 1.09 ล้านล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นเกือบ 15% โดยเป็นหนี้เสียบ้าน 2.41 แสนล้าน ซึ่งมีอัตราการเติบโตขึ้น 18% หนี้เสียรถยนต์ 2.4 แสนล้านมีอัตราการเติบโตขึ้น 32% หนี้เสียส่วนบุคคล 2.6 แสนล้านมีอัตราการเติบโตขึ้น12% และมีหนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตอีก 14.6%
.
จากการตรวจสอบข้อมูล ยังพบได้ว่า ภาระหนี้ที่กำลังจะกลายเป็นหนี้เสีย ค้างชำระตั้งแต่ 1 ถึง 3 เดือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หนี้บ้าน1.8แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโตของหนี้ คิดเป็น15% หนี้รถ 2.04 แสนล้านมีอัตราการเติบโตของหนี้ 7% หนี้บัตรเครดิต 1.17 หมื่นล้านมีอัตรการเติบโตของหนี้ 32.4%
.
รวมไปถึงรัฐต้องรีบลงมาดูเรื่อง การสนับสนุนให้ก่อหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ของภาคเอกชน ยกตัวอย่างแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ที่ให้ผ่อนชำระได้หลายเดือน โดย ที่ไม่ต้องมีอะไรเป็นค้ำประกันหนี้ ทำให้อาจจะก่อหนี้เสียให้กับระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นตามมา
.
นอกจากนี้ยังพบว่าหนี้ในภาคธุรกิจ (OD) ลดลง -5.7% ซึ่งถือว่าอันตรายอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะผลดังกล่าวสะท้อนถึง ปัญหาเงินหมุนเวียนในระบบธุรกิจ ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจอาจขาดสภาพคล่อง แต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ซึ่งเป็นการบ้านของรัฐบาลที่ต้องเร่งจัดการ
.
ขณะเดียวกันยังมีหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ ของข้าราชการ ที่เป็นบุคลากรด้านการศึกษา มีมูลหนี้ก้อนใหญ่ถึง 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งกระทบไปถึงมิติทางการศึกษา การสร้างทรัพยากรบุคคลได้
.
นายรณกาจ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ประกาศ GDP ไตรมาส 1 ออกมา แค่ 1.5% ซึ่งโตต่ำที่สุดในภูมิภาค ทำให้ล่าสุดจากการคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เศรษฐกิจไทย 2567 อาจขยายตัวเพียงแค่ 2.5% ซึ่งปรับลดลงจากที่เคยประมาณการที่ 2.7% นายรณกาจ ชี้ว่าสถานการณ์ดังกล่าว เป็นผลมาจากการส่งออกและภาคเกษตรที่เป็นกำลังหลัก หดตัวมากกว่าที่คาดการณ์
.
ปัญหาหนี้ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของคนไทยได้ ทั้งยังปล่อยให้ค่าครองชีพปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่สามารถลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ ตามคำมั่นที่ได้ประกาศไว้ ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง หลายนโยบายที่ใช้เงินก็ไม่ตอบโจทย์ปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะดิจิทัล วอลเลท ที่ต้องกู้ถึง 500,000 ล้านบาท เป็นการใช้เงินมหาศาล ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงระยะสั้น แต่สุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นภาระทางการคลังในระยะยาว
.
พรรคไทยสร้างไทย จึงย้ำเสมอว่าการเข้าถึงแหล่งทุนเป็นเรื่องสำคัญ และเสนอนโยบายเครดิตประชาชน เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ตั้งแต่ 10,000 บาทจนถึง 100,000 บาท นำไปเป็นทุนตั้งตัวตลอดชีวิต โดยรัฐจะให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ1ต่อเดือน ซึ่งนโยบายนี้จะทำให้คนยากจนเข้าถึงแหล่งทุนและสามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้อย่างมั่นคง โดยเป็นหลักคิดที่แตกต่างจากนโยบายแจกเงินดิจิทัล ของรัฐบาล

คุยกันหน่อย #ค่าครองชีพ #หนี้ #เศรษฐกิจ #รัฐบาลเศรษฐา #คุณหญิงสุดารัตน์ #ดิจิทัลวอลเล็ต #เงินดิจิทัล #ของแพงค่าครองชีพพุ่ง #หนี้ครัวเรือน #หนี้สหกรณ์ #GDP

ร่วมแบ่งปันนโยบาย:

Facebook
Twitter

ข่าวสารน่าสนใจอื่น ๆ

ข่าวสาร
"ชวลิต ไทยสร้างไทย" ชื่นชมและขอบคุณ ศาลจังหวัดนราธิวาส" ใช้ทั้งหล...
ข่าวสาร
นายรัตนมงคล เลิศทวีวิทย์ รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยภายหล...
ข่าวสาร
ทีมไทยสร้างไทย มอบโอกาส สร้างความสุข จัดกิจกรรมดูแลสังคม มอบอุปกร...
ข่าวสาร
"ชวลิต ไทยสร้างไทย" ชื่นชมและขอบคุณ ศาลจัง...
ข่าวสาร
นายรัตนมงคล เลิศทวีวิทย์ รองเลขาธิการพรรคไ...
ข่าวสาร
ทีมไทยสร้างไทย มอบโอกาส สร้างความสุข จัดกิ...
ข่าวสาร
โฆษกไทยสร้างไทย ชี้รัฐบาลถังแตก แจกเงินหมื...
ติดตามทางโซเชียลมีเดีย