นายทิวากร สุระชน รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงสถานการณ์ของราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงต้นทุนด้านพลังงานที่พุ่งสูง ซ้ำเติมความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นราคาไข่ไก่ ที่ปรับขึ้นราคา 20 สตางค์ จาก 3.80 เป็น 4 บาท หรือปรับขึ้นถึงแผงละ 6 บาท ซึ่งปัญหาไข่ไก่ที่ปรับราคาขึ้นในครั้งนี้ เกิดจาภาวะขาดแคลนหรือการบริโภคไข่ไก่เพิ่มขึ้นหลังเปิดภาคเรียน แต่ก่อนที่จะมีการปรับราคาจากการตรวจสอบพบว่าไข่ไก่ได้หายออกจากตลาดโดยไม่ทราบสาเหตุ ราคาไข่ที่พุ่งสูงขึ้น นอกจากจะส่งผลกระทบกับประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคแล้ว
ยังมีร้านค้าขายไข่ไก่ทั่วประเทศต้องรับไข่ไก่มาในราคาที่สูงขึ้น แต่กำไรไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย อีกทั้งยังส่งผลทำให้ยอดการขายไข่ไก่ตกลง ทั้งการขายต่อให้กับลูกค้ารายย่อยและขายปลีกให้กับชาวบ้าน อันเนื่องมาจากราคาไข่ไก่ที่ปรับสูงขึ้น การที่ชาวบ้านไม่มีกำลังซื้อ สังเกตได้จากในปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าที่มาซื้อไข่ไก่ เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อไข่ไก่จากที่เคยซื้อครั้งละ 1-2 แผง มาซื้อครั้งละ 5-10 ฟองแทน ส่วนยอดเป็นไปตามกำลังซื้อของผู้บริโภค ส่งผลกระทบไปทุกแห่งโดยเฉพาะร้านอาหารที่ต้องปรับราคาให้สูงขึ้นเมื่อก่อนผัดกะเพราไข่ดาว เมื่อก่อนผัดกะเพราไข่ดาว อาจอยู่ในช่วงราคา 50-55บาท ปัจจุบันต้องเพิ่มราคาขึ้นเป็น 55-60 บาท
นายทิวากร ระบุเพิ่มเติมว่า ราคาพลังงานที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ทุกๆอย่างต้องเพิ่มตาม บางร้านที่ยังแบกราคาไว้ก็พยุงราคาช่วยเหลือ แต่บางร้านที่ต้นทุนน้อยก็ต้องปรับราคา ทำให้ขายสินค้าได้ยากขึ้น ขาดรายได้โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย
สถานณการตอนนี้สวนทางกับคำปราศัยของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่เคยประกาศไว้ตอนหาเสียงว่าประชาชนจะ “มีกินมีใช้ไปพร้อมๆกัน” อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นคำว่า “ประหยัดกินประหยัดใช้ไปพร้อมๆกัน” เพราะหากปล่อยปละละเลยล่าช้าไม่ทันสถานการณ์พี่น้องประชาชนจะจนลงและมีหนี้สินมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายย่อย จะต้องยุติกิจการเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก จึงขอวิงวอนรัฐบาลช่วยเร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ และต้นทุนด้านพลังงานโดยด่วน และขอให้ลงพื้นที่สำรวจความเห็นจากพี่น้องประชาชนจริงๆ รวมถึงเร่งออกมาตรการช่วยเหลือ เพราะตั้งแต่ต้นปีราคาไข่ไก่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 4 ครั้ง ไม่ได้มีการปรับลดลง
#ไทยสร้างไทย #ไข่ไก่ #ไข่แพง #ของแพง #น้ำมันแพง #ค่าครองชีพ #รัฐบาลเศรษฐา #แพงทั้งแผ่นดิน