นายกิติ วงษ์กุหลาบ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่าวันที่ 11 กรกฎาคมที่จะถึงนี้รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน จะทำงานครบ 10 เดือน ซึ่งจากการรับฟังเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชน ต่างมองว่าผลงานของรัฐบาลไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่สามารถจับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ มองไม่ออกว่ารัฐบาลเศรษฐามีทีมเศรฐกิจหรือไม่
.
จากการพูดคุยกับนายสรเทพ โรจน์พจนารัช หรือ สตีฟ ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ จึงต้องตั้งคำถามไปถึงผู้มีอำนาจว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ มาถูกทางหรือไม่ เพราะ 10เดือนที่ผ่านมา มีแต่ปัญหาเพิ่มมากขึ้น เช่น ข้าวของและค่าวัตถุดิบแพงขึ้น, ค่าไฟเพิ่ม, หนี้สิ้นเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งเดียวที่ไม่เพิ่มก็คือรายได้ อยากเห็นทีมเศรฐกิจเข้ามากำหนดนโยบายที่สามารถทำได้จริง ว่าในแต่ละเดือนสามารถกระตุ้นอะไรได้ แก้ปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง ไม่เช่นนั้นก็จะเห็นสภาพร้านอาหารต่างๆมีแต่ถยอยปิดลงไปเรื่อยๆ ยังไม่รวมถึงร้านโชห่วยตามต่างจังหวัดอีกมากมาย
.
ผู้ประกอบการร้านอาหาร SMEs คนตัวเล็ก อยากเห็นความจริงใจจากรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายในการดูแลกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งรัฐบาลต้องตีโจทย์ให้แตกว่าเราจะแก้ปัญหาด้านใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นมหาศาล โดยเฉพาะหนี้สินด้านที่อยู่อาศัยเพราะเป็นต้นเหตุทางจิตวิทยาทำให้ครอบครัวเกิดความเครียดและมีปัญหาอื่นๆตามมา จะได้เห็นคนฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นจากหนี้สินด้านที่อยู่อาศัย อีกทั้งรัฐบาลควรเร่งลดรายจ่ายบางส่วน เพิ่มรายได้ ตัวอย่างเช่น ภาษีโรงเรือนเหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ เจ้าสัวรายใหญ่ แต่ถ้าเป็นธุรกิจ SME หรือธุรกิจรายย่อยที่เช่าบ้านมาเปิดเป็นร้านอาหารแล้วเจออัตราภาษีก้าวหน้าก็มีแต่ภาษีที่ซ้ำซ้อนกัน ทุกวันนี้ผู้ประกอบการก็ยังไม่สามารถจ่ายภาษีกันได้เลย
.
ส่วนกฎหมายด้านสุราที่ออกมาตั้งแต่สมัยคณะปฎิวัติ 2515 ควรเร่งแก้ไขได้แล้วเพราะสมัยก่อนเหตุที่ไม่ให้จำหน่ายสุราเพราะกลัวข้าราชการจะออกมาดื่มสุรากัน แต่ในปัจจุบันประเทศไทยกลายเป็นเป็นประเทศอันดับหนึ่งด้านการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกเมืองไทยอันดับต้นๆ แต่ร้านอาหารกลับไม่สามารถขายสุราให้นักท่องเที่ยวนั่งกินดื่มชมบรรยากาศภายในร้านช่วงเวลางดจำหน่ายสุราได้ จึงข้อให้แก้ไขกฎหมายนี้โดยเร่งด่วน
.
สำหรับ นโยบายเรือธงอย่าง ดิจิทัลวอลเลท หนึ่งหมื่นบาท จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ ที่กำหนดแจกไตรมาส 4 ปีนี้หรือไม่ และไม่แน่ใจว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นรัฐบาลต้องหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้ก่อน เช่นการการแจกเงินสด คนละ 2000 บาททุกเดือน ให้คนมาจับจ่ายใช้สอย 3 ถึง 5 เดือน จะช่วยเหลือร้านค้ารายย่อยจนถึง SME รายใหญ่ เพราะธุรกิจด้านอาหารเป็นธุรกิจที่มี Supply Chain ใหญ่มาก จะเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในประเทศแล้วก็วนกลับสู่รัฐบาลในรูปแบของภาษี แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นนายกรัฐมนตรี เร่งแก้ไขปัญหาอะไร หรือเป็นเพราะทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลมองไม่ออกว่าต้องแก้ไขอย่างไร?