นายกิติ วงษ์กุหลาบ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เห็นด้วยกับการแก้ปัญหานักช้อปออนไลน์ถูกหลอกลวง เพราะล่าสุด ทราบว่าราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศ เห็นชอบร่างประกาศที่เกี่ยวข้องกับการที่ผู้บริโภคสามารถขอเปิดดูสินค้าได้ก่อนชำระเงินค่าสินค้า สำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์จ่ายเงินปลายทาง โดยการใช้ “มาตรการส่งดี (Dee-Delivery)” โดยมองว่า มาตรการที่ออกมาจะช่วยแก้ไขปัญหา ให้กับประชาชน ที่ปัจจุบันนิยมซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ให้ได้รับสินค้าและบริการที่ตรงไปตรงมา ถูกต้องตรงปก ถือเป็นเรื่องที่ต้องชื่นชม นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ผลักดัน กฎหมายดังกล่าวจนคลอดออกมาเป็นผลสำเร็จ
.
ตนเชื่อว่า ประกาศฉบับนี้จะช่วยแก้ปัญหาให้นักช้อปออนไลน์ได้เป็นอย่างดี เพราะผู้ให้บริการขนส่งสินค้าที่เรียกเก็บเงินปลายทางจากผู้บริโภค ต้องระบุรายละเอียดในหลักฐานการรับเงิน เช่น ชื่อ-สกุล และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่งสินค้า หมายเลขติดตามพัสดุ ข้อมูลพัสดุ จำนวนเงินที่เรียกเก็บปลายทาง
.
รวมถึงให้สิทธิผู้บริโภคปฏิเสธไม่รับสินค้า หรือมีสิทธิได้รับค่าสินค้าคืน โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจถือเงินไว้ก่อนเป็นเวลา 5 วัน ก่อนนำส่งเงินให้กับผู้ส่งสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสแจ้งเหตุที่ขอคืนสินค้าและขอเงินคืน นอกจากนี้ ยังให้สิทธิผู้บริโภคสามารถเปิดดูสินค้าก่อนชำระเงินได้ โดยบันทึกภาพถ่ายหรือวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน หากสินค้าไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ ผู้บริโภคสามารถปฏิเสธการชำระเงินและไม่รับสินค้าได้
.
ยังได้เสนอแนะให้รัฐบาลกำหนดมาตรการกำกับการแข่งขัน-เพดานราคา แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 2-3 เจ้าซึ่งมาจากต่างประเทศและผูกขาดตลาดไทยไว้เกือบหมด ผู้ค้าขายคนไทยรวมถึงผู้บริโภคคนไทยไม่ได้มีตัวเลือกไปมากกว่านี้ ส่วนผู้บริโภคแม้จะมีส่วนดีที่ยังได้รับอานิสงส์จากการที่แพลตฟอร์มเสนอดีลราคาพิเศษ แต่ความน่ากลัวที่เป็นผลกระทบข้างเคียง คือแผนการตลาดจากแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่เหล่านี้จะกระทบผู้ค้ารายเล็กจนไม่สามารถประกอบธุรกิจต่อได้
.
ดังนั้นภาครัฐควรเข้ามากำกับดูแลการขึ้นค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน และสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ที่มีหน้าที่ควบคุมการแข่งขันของภาคธุรกิจในประเทศ จำเป็นต้องป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคคนไทยโดยแพลตฟอร์มข้ามชาติ
.