นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 1.2 แสนล้านบาทในวาระ 2 และ 3 ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมฯพิจารณาเสร็จแล้วว่า ขอปรับลดงบประมาณของงบดังกล่าวลง 100% เพราะเป็นการจัดงบที่ขัดกฎหมาย 2ฉบับ ประกอบด้วย
.
พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐพ.ศ 2561 มาตรา 21 ที่ระบุไว้ชัดเจนว่าการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ให้กระทำได้เมื่อมีเหตุผลและความจำเป็น ที่ต้องใช้เงินระหว่างปีงบประมาณ “โดยไม่สามารถรองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณถัดไปได้” และให้ระบุที่มาของเงินที่จะใช้จ่ายตามงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมด้วย
.
รวมถึง ยังขัด พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณพ.ศ. 2561 มาตรา 43 ที่ระบุไว้ว่าการขอเบิกจ่ายจากคลังตามงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณใด ให้กระทำได้แต่เฉพาะภายในปีงบประมาณนั้น ในกรณีที่ไม่สามารถเบิกเงินจากคลังได้ ภายในปีงบประมาณ ให้ขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังได้ เฉพาะในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณได้ก่อหนี้ผูกพันไว้ก่อนสิ้นปีงบประมาณ และได้มีการกันเงินไว้ตามระเบียบเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว
.
ดังนั้นหากรัฐบาลจะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต โดยก่อหนี้ผูกพัน จะต้องทำให้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 เพราะหากพิจารณาจากไทม์ไลน์ โดยเฉพาะการนำเงินมาใช้ หากเกิดหลังวันที่ 30 กันยายน 2567 จะไม่สามารถนำมาใช้ได้ จึงขอย้ำว่าหากรัฐบาลตั้งเป้าจะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะต้องก่อหนี้ผูกพันให้ทันในวันที่ 30 กันยายน 2567 เพื่อไม่ขัดต่อกฎหมาย จึงจะได้รับการอนุมัติการเงินไว้ตามระเบียบของกระทรวงการคลัง
.
ตนจึงขอให้รัฐบาลกลับไปทบทวน และรับฟัง ข้อเสนอที่เป็นทางออกของการใช้งบประมาณดิจิทัลวอลเล็ต 4.5 แสนล้านบาท คือรัฐบาลต้องนำงบ 1.65 แสนล้านบาทแจกให้กลุ่มเปราะบาง 16.5 ล้านคน ส่วนประชาชนอีก 28.5 ล้านคน ขอให้รัฐบาลใช้งบดิจิทัลวอลเล็ต ปี 2568 และเกลี่ยงบของกระทรวงต่างๆมาใช้อีกส่วนหนึ่ง