“ไทยสร้างไทย” ห่วงใยเกษตรกร หลังพบการนำเข้าผัก – ผลไม้จากจีนมหาศาล หวั่นทำเกษตรกรไทยล้มหายตายจาก แถมเกิดช่องว่างความปลอดภัยด้านอาหาร/แนะกษ.ใช้กลไกการทูต เร่งแก้ปัญหา พร้อมพัฒนาสินค้าเกษตรคุณภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจใน “ค่านิยมของไทย”

ข่าวสาร

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย อดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีร้ายแรงในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นกรณีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่ามีรถไฟขนส่งสินค้าผัก – ผลไม้ แบบตู้แช่เย็น ข้ามพรมแดนขบวนแรกจากมณฑลยูนนานจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมายังเวียงจันทน์ ประเทศ สปป.ลาว จากนั้นขนถ่ายสินค้าทางถนนไปยังกรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าเส้นทางนี้จะมีการขนส่งผัก – ผลไม้ มากกว่า50,000 ตัน/ปี นอกเหนือจากด่านอื่นทั่วประเทศ

นายชวลิตฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเป็นกรรมาธิการงบประมาณปี 2567 ที่ผ่านมา เลขาธิการ อย.รายงานต่อที่ประชุมว่า ไทยนำเข้าผัก – ผลไม้ ปีละนับล้านตัน ด่านสำคัญ คือ
ด่านเชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเมื่อย้อนไปในปี 2562 ในขณะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ปัญหาสารเคมีภาคเกษตรดังกล่าว พบว่าตามด่านชายแดนไม่มีห้องแล็บสำหรับสุ่มตรวจผัก – ผลไม้ ว่ามีสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ ต้องส่งตัวอย่างมาตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งไม่ทันกับเหตุการณ์ คนไทยจึงสุ่มเสี่ยงต่อการสะสมสารเคมีในร่างกายจากการรับประทาน ผัก – ผลไม้ที่มีสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน

เท่ากับเป็นการ “ตายผ่อนส่ง” สอดคล้องกับสถิติที่คนไทยมีสาเหตุการตายด้วยโรคมะเร็ง ปีละ 67,000 คน ชั่วโมงละ 8 คน ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ติดต่อกันมาหลายสิบปี จริงอยู่แม้สาเหตุการเป็นโรคมะเร็งจะมีหลายสาเหตุ แต่งานวิจัยก็พบว่า การรับประทานผัก – ผลไม้ ที่มีสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเป็นมะเร็งเช่นกัน

หากประเทศไทยปล่อยให้มีการนำเข้าผัก – ผลไม้ ด้วยวิธีที่อาจเรียกได้ว่าเป็นการทุ่มตลาด ก็จะเกิดผลเสียหายกับคนไทยและประเทศไทย อย่างน้อย 2 ประการ ดังนี้
1.เกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ จะค่อย ๆ ล้มหายตายจาก เพราะศักยภาพในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการปลูก การผลิตผัก – ผลไม้ ตลอดจนพื้นที่การเพาะปลูก ฯลฯ เราไม่อาจเทียบประเทศใหญ่ ๆได้โดยเฉพาะ “ราคา” สินค้า หากมีการดัมพ์ราคา เกษตรกรไทยไม่สามารถสู้ได้

  1. การสุ่มตรวจผัก – ผลไม้ ว่ามีสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ อย.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ต้องสุ่มตัวอย่างส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ่งไม่ทันเหตุการณ์ ส่งผลให้คนไทย “ตายผ่อนส่ง” จากการรับประทานผัก – ผลไม้ที่มีสารเคมีปนเปื้อนสะสมทุกวัน ๆ

นายชวลิต ฯได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาว่า เนื่องจากไทยมีข้อตกลง เอฟทีเอ อาเซียน – จีน ภาษีสินค้าเกษตร เป็นศูนย์ การแก้ปัญหาดังกล่าวจึงควรอาศัยกลไกทางการทูต เจรจาการค้าสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นอยู่ร่วมกันได้

ขณะเดียวกันประเทศไทยก็ต้องปฏิรูปงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างขนานใหญ่ ในการพัฒนาการผลิตที่มีคุณภาพ ทั้งการลดต้นทุน ที่สำคัญต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังแหล่งผลิตเพื่อตรวจสอบควบคุมการใช้สารเคมีไม่ให้มีการปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน

ที่สำคัญ รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสร้าง “ค่านิยมไทย” เช่น ไทยทำไทยใช้ ไทยเจริญ หรือไทยปลูก ไทยกิน ไทยเจริญ เป็นต้น

ที่สำคัญเราต้องให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังอาหารปลอดภัย ตลอดจนการปราบปรามผู้กระทำผิด มีความจำเป็นต้องมีการพัฒนา ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ เพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบมีอยู่หลายกระทรวง และในกระทรวงเดียวกันก็มีหลายกรม ทำงานเป็นเอกเทศ ส่งผลให้งานไม่มีเอกภาพ ซ้ำซ้อน สิ้นเปลืองงบประมาณ

จึงสมควรที่จะยกระดับงาน “ระบบอาหารปลอดภัย” ขึ้น เป็นองค์กรเดียวที่มีเอกภาพ รับผิดชอบวางระบบอาหารปลอดภัยโดยเฉพาะ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงาน ลดงบประมาณในการปฏิบัติหน้าที่ที่ซ้ำซ้อน ที่สำคัญ จะส่งผลให้ลดค่ารักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย ทั้งจากภาครัฐและประชาชนผู้เจ็บป่วยลงได้อย่างมากเมื่อคนไทยเจ็บป่วยน้อยลง ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศในทุกด้านตามมา

ร่วมแบ่งปันนโยบาย:

Facebook
Twitter

ข่าวสารน่าสนใจอื่น ๆ

ข่าวสาร
โฆษกไทยสร้างไทย ไม่เชื่อ นโยบายรัฐบาล "อุ๊งอิ๊ง" พลิกเศรษฐกิจของป...
ข่าวสาร
โฆษกไทยสร้างไทย เชื่อนายกใหม่น่วม เดินการเมืองเลอะเทอะ ต้องเจอศึก...
ข่าวสาร
"ชวลิต ทสท." ฟันธง คนไทยไม่ได้ใช้ รธน.ใหม่ กติกาใหม่ในการเลือกตั้...
ข่าวสาร
โฆษกไทยสร้างไทย ไม่เชื่อ นโยบายรัฐบาล "อุ๊...
ข่าวสาร
โฆษกไทยสร้างไทย เชื่อนายกใหม่น่วม เดินการเ...
ข่าวสาร
"ชวลิต ทสท." ฟันธง คนไทยไม่ได้ใช้ รธน.ใหม่...
ข่าวสาร
"ไทยสร้างไทย" หนุน ข้อเรียกร้อง "สหภาพแรงง...
ติดตามทางโซเชียลมีเดีย