นายรัตนมงคล เลิศทวีวิทย์ นายนรุตม์ชัย บุนนาค รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่สังเกตการณ์พร้อมรับฟังข้อเรียกร้อง จากตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การสุรา ถึงปัญหา ของการบริหารจัดการนโยบายภาครัฐ ซึ่งส่อว่าจะมีการเอื้อนายทุน ทำให้เอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งอยู่ในการควบคุมขององค์การสุรา กรมสรรพสามิตกระทรวงการคลัง หลุดจากการควบคุมของรัฐ จนทำให้คนทั่วไป พี่น้องประชาชน สามารถเข้าถึงได้อย่างเสรี กระทบความปลอดภัย เพราะสามารถนำเอทิลแอลกอฮอล์ ไปใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสุราเถื่อนได้
.
“หลุดจากการควบคุมของกรมสรรพสามิต สามารถจำหน่ายและโฆษณาได้อย่างเสรี เช่นเดียวกับอาหารทั่วไป ถึงถูกนำมาวางจำหน่ายผ่านร้านค้าทั่วไป ร้านค้าออนไลน์ประชาชนสามารถซื้อหาได้ อย่างเสรี โดยนำมาผสมกับน้ำ หรือของเหลวอย่างอื่นเพื่อดื่มกิน เช่นเดียวกับสุราที่ออกฤทธิ์มึนเมาได้” นายรัตนมงคล กล่าว
.
นายรัตนมงคล กล่าวด้วยว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากการเลี่ยงภาษีของสินค้า และทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีหลายร้อยล้านบาทต่อปี สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง และที่สำคัญคือผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน เช่นในเหตุการณ์ของคลัสเตอร์เหล้าเถื่อน ซึ่งมีการนำเอทิลแอลกอฮอล์ 95ดีกรี มาผสมน้ำเพื่อเจือจางให้เหลือ 35 ดีกรี จนเป็นเหตุโศกนาฏกรรมที่มีทั้งผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับสารพิษสาหัสต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลจำนวนมาก
.
ตนจึงขอสนับสนุนข้อเรียกร้อง ของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การสุรา ซึ่งได้ร้องเรียนต่อเนื่อง มากว่า 3 ปี เพื่อสื่อสารไปถึง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้ร่วมกันปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มุ่งรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และร้องขอให้กรมสรรพสามิตตีความสินค้าที่ชื่อว่าวัตถุเจือปนอาหาร ซึ่งมีสภาพเป็นเอทิลแอลกอฮอล์ 95 ดีกรี ให้กลับมาเป็นสินค้าในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
.
อย่างไรก็ตาม ผู้มีอำนาจอย่างเพิกเฉยต่อเรื่องที่มีการร้องเรียนร้องทุกข์ ตนจึงขอเรียกร้องอีกครั้ง ว่าขอให้รัฐบาลโดยกรมสรรพสามิต ยุตินโยบายที่เปรียบเสมือนเป็นการเอื้อนายทุน เปิดช่องให้เกิดการแทรกแซงการประกอบกิจการของรัฐวิสาหกิจ และปล่อยให้สินค้าเอทิลแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำคัญในการผลิตสุรา หลุดจากการควบคุมของรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง