นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยภายหลัง ติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาล พร้อมนำเสนอข้อมูล ในรูปแบบของการอภิปรายนอกสภา ซึ่งไม่เชื่อมั่นว่า นโยบายเร่งด่วนรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะนำพาพี่น้องคนไทยกลับไปมีกินมีใช้ได้ โดยชี้ว่าแต่ละนโยบายที่มีความ คล้ายคลึงกับการแสดงวิสัยทัศน์ของอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร
.
อธิบายที่มาของนโยบายได้ไม่ชัดเจน และเชื่อว่าหลายนโยบายมีวาระซ่อนเร้น ทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนที่มีการยกกรณีการซื้อหนี้ โดยนายปริเยศ จี้ให้รัฐบาลยืนยันว่าเจ้าภาพการซื้อหนี้ของประชาชนนั้น จะทำโครงการโดยรัฐบาล รวมถึงตั้งคำถามเกี่ยวกับกรณีของเศรษฐกิจใต้ดินทั้งเรื่องบ่อนออนไลน์และหวยใต้ดิน ว่าประเทศได้ประโยชน์คุ้มค่าจริงหรือไม่ รวมถึงจะมีการนิรโทษกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องกับหวยใต้ดินในอดีต เหมือนกรณีของการปลดล็อคกัญชาหรือไม่
.
โฆษกไทยสร้างไทยยังชี้ถึงการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ในอดีตถึงการต่อต้านต่างชาติที่เข้ามาอย่างหนักจนผู้ประกอบการ sme ล้มหายไป โดยชี้ว่า กระทรวงพาณิชย์ในอดีตแทบไม่ได้มีผลงานอะไร ถือว่าเป็นการทำงานที่ไร้คุณภาพมาก รวมถึงถามรัฐบาลถึงการดูแลเกษตรกรว่า จะสร้างรายได้ให้เขาได้อย่างไรทั้งที่ปัจจัยการผลิตไม่ได้ช่วยให้เกษตรกรผ่านพ้นปัญหาได้ ซ้ำร้ายยังเจอปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วม ต่อให้ราคาสินค้าเกษตรดีแต่ไม่มีผลผลิตขาย รัฐบาลยังกล้าเอามาเป็นผลงาน
.
ในด้านยาเสพย์ติด โฆษกไทยสร้างไทยชี้ว่า รัฐบาลบอกจะแก้ปัญหาจริงจังและใช้ด้านสาธารณสุขเป็นแม่งานหลัก แต่ดันไม่ส่งเสริมงบประมาณการดูแล CBTX หรือชุมชนให้สามารถพัฒนาศูนย์ดูแลผู้เสพยาได้ ต้องไปถ่ายโอนงบประมาณจากส่วนอื่นมาช่วย รวมถึงนโยบายการลดค่าครองชีพทั้งค่าพลังงานและค่ารถไฟฟ้า โดยชี้ว่า รัฐบาลอธิบายแบบซ่อนเงื่อนไว้ ไม่กำหนดว่า จะผลักดันกฏหมายพลังงานของพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ และเมื่อใด รวมถึงพรบ.ตั๋วร่วม จะยังคงดำเนินการตามแผนเดิมและกองทุนจะมีแนวทางตามเดิมหรือเปลี่ยนไปเป็นการเวนคืนสัมปทานกันแน่
.
“รัฐบาลชุดนี้ ทำนโยบายออกมา มีข้อสงสัยเต็มไปหมด กลุ่มผู้มีอำนาจจะ “เหลือกินเหลือใช้” จากนโยบายชุดนี้ ส่วนประชาชนอยู่ในฐานะที่ต้อง “ขอกินขอใช้” ไปพร้อมๆกัน และตนไม่หวังกับการทำงานของรัฐบาลนี้เพราะตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ ห่วยขนาดไหน” โฆษกไทยสร้างไทยกล่าว