นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ออกโรงจี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เร่งแก้ไขปัญหาของแพงในพื้นที่น้ำท่วม โดยชี้ว่าหลังจากมีการประชุม คอส. ครั้งที่ 1 ผ่านพ้นไป
.
ตนเองเห็นว่ามีการสั่งการข้าราชการให้คุมเข้มเรื่องสินค้าแพงอย่างแข็งขัน แต่ตัวรัฐมนตรีเองกลับไปให้สัมภาษณ์ข่าวในเรื่องการทำงานของแบงค์ชาติ ทั้งที่ความเป็นจริงควรจะใช้พื้นที่ข่าวและสมาธิในการกดดันเหล่าผู้กักตุนสินค้า รวมถึงผู้ที่กำลังเอาเปรียบประชาชนมากกว่า เพราะเวลานี้ประชาชนกำลังเจอข้าวแกงจานละร้อย ไม้กวาดอันละ200 บาท อยู่ในพื้นที่และก็ไม่สามารถมีทางเลือกได้ ตนจึงคิดว่าเวลานี้รัฐมนตรีควรเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน และไม่ควรคิดว่าตนเองยังคงเป็นรมช.คลังเหมือนในอดีต
.
ทั้งนี้ โฆษกไทยสร้างไทย ยังกล่าวถึงการทำงานของ คอส. ภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรีว่า อยากให้ คอส. เป็นมากกว่าศูนย์บูรณาการภาครัฐ เพราะการขับเคลื่อนงานของหน่วยงานรัฐในตอนนี้ยังคงช้ากว่าภาคประชาชนและฝ่ายความมั่นคงอยู่มากๆ
.
ดังนั้นหากภาคประชาชนทั้งมูลนิธิต่างๆ รวมถึงคนในพื้นที่ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นด้านกำลังคน หรืออุปกรณ์ใดๆ หรือแม้กระทั่งด้านงบประมาณ คอส.เองควรมีหน่วยรับผิดชอบในการรับเรื่องจุดนี้โดยเฉพาะ ตนเองไม่สบายใจที่มีการสื่อสารว่า ข้อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือต่างๆ ประชาชนสามารถติดต่อที่ 1111 ได้อยู่แล้วเพราะความเป็นจริงต่อให้มีการส่งเรื่องมาให้ส่วนกลาง การแก้ไขปัญหาก็ไม่ทันการอยู่ดี
.
ซึ่งเรื่องนี้ตนจึงอยากให้ คอส. พัฒนาการทำงานให้หลากหลายมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะดูจากผลการประชุมครั้งแรกรวมถึงการเปิดทำเนียบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ภาคเอกชนเข้าไปสะท้อนปัญหาโดยตรง ยังมีความเป็นราชการอยู่มากๆ ซึ่งเรื่องนี้ยังตอบโจทย์ได้ไม่ดีพอ แม้จะมีข้อสั่งการมากมายก็ตามแต่การทำงานอาจจะไม่ได้เร็วขึ้นอย่างที่คิด
.
อีกทั้งตอนนี้ยังไม่เห็นแผนการที่ชัดเจนถึงการเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในเดือน ตุลาคม และ พฤศจิกายน ทั้งในภาคกลางและภาคใต้ ซึ่งนักวิชาการต่างให้ข้อมูลด้านพายุที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอีกหลายลูก และประชาชนยังได้ข้อมูลและแนวทางการเตรียมรับมือน้อยมากๆ เพราะการประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา เป็นการประกาศแบบกว้างๆและคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนเท่านั้น จึงถือว่ามีรายละเอียดน้อยมากๆ โฆษกไทยสร้างไทยกล่าว