“ชวลิต ทสท.” เสนอแนะ “นรม.” และ “ผู้นำฝ่ายค้าน ฯ” ถอดสลัก “คดีตากใบ” ด้วย “การขอโทษต่อสาธารณะ” (Public Apology)และให้คำมั่นสร้างสันติภาพด้วย นโยบายการเมืองนำการทหาร/วอนผู้มีความเห็นต่างทางการเมืองใช้ช่องทาง “รัฐสภา” แก้ไขปัญหาตามระบอบประชาธิปไตย

ข่าวสาร

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรค และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นใน “คดีตากใบ” ที่กำลังเป็นประเด็นทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ว่า พลันที่เสียงระเบิดคาร์บอมบ์เกิดขึ้นบริเวณใกล้บ้านพักนายอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อ 29 ก.ย.67 ที่ผ่านมา สะท้อนนัยยะทางการเมืองทั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอาจรวมถึงการเมืองระหว่างประเทศที่ประเทศมหาอำนาจกำลังสร้างสงครามเย็นกันอยู่ โดย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยอยู่ในจุดล่อแหลมทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลกด้วยจุดหนึ่งที่กล่าวว่า
.
เหตุคาร์บอมบ์สะท้อนนัยยะทางการเมืองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จะเห็นได้จากจุดที่เกิดระเบิดคาร์บอมบ์ผู้ก่อเหตุตั้งใจวางใกล้บ้านพักข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดนราธิวาส ที่สำคัญวัน เวลาเกิดเหตุ เกิดก่อนถึงวันที่อายุความ “คดีตากใบ” จะสิ้นสุดลงใน 25 ต.ค.67 ที่จะถึงนี้ เป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงรัฐบาลและสังคมว่า ประชาชนในพื้นที่จำนวนหนึ่งต้องการพิสูจน์ “ความเป็นธรรม”ที่เขาถามหา และติดตามคดีนี้อยู่
.
คงจะต้องตัดตอนความเป็นมาของ “คดีตากใบ” ให้สั้นเข้า เพราะสามารถหาข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ได้ไม่ยาก ส่วนที่จะเริ่มให้ความเห็นในวันนี้ก็ คือ เมื่อศาลจังหวัดนราธิวาสประทับรับฟ้อง อันแสดงว่าศาลชั้นต้นเห็นว่า “คำฟ้องมีมูล” อย่างไรก็ตาม เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ สมควรเข้าต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม หากหลบหนีไม่ไปศาลตามหมายเรียกหรือหมายจับ สังคมทั้งในประเทศและต่างประเทศย่อมเชื่อว่า หนีความผิด ทั้ง ๆ ที่หากเข้ามาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมย่อมเป็นไปตามหลักฐานที่โจทก์และจำเลยจะนำมาต่อสู้ในคดี
.
ประเด็นสำคัญก็ คือ เมื่อเป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง ฝ่ายบริหารซึ่งก็ คือ รัฐบาลต้องชั่งน้ำหนักระหว่าง”ชาติ พรรค และบุคคล” ให้ดี แน่นอน ผู้ที่มีวุฒิภาวะ “ชาติ” ต้องมาก่อน ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องแสดงความ “จริงใจ” ขวนขวายทุกวิถีทางที่จะกำกับ ติดตามตัวจำเลยที่หลบหนี เพื่อนำมาสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดในบ้านเมือง และทั้งสองฝ่าย คือ ทั้งโจทก์และจำเลย
.
ที่ผ่านมาจากการให้สัมภาษณ์ของฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งอยู่ฝั่งรัฐบาลล้วนให้ความเห็นว่าเป็นเรื่องของบุคคล การตามตัวเป็นเรื่องของ จนท. ถือได้ว่า “พลาด” ไปแล้ว แต่ไม่ควรพลาดซ้ำแล้ว ซ้ำอีก เพราะเวลาที่ผ่านมาเกือบ 20 ปี เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นก็เป็นแผลร้าวลึกมาจนทุกวันนี้
.
ดังนั้น ณ ปัจจุบัน ถ้านำ “ชาติ” มาเป็นที่ตั้งดังกล่าวข้างต้น ก็จะทำให้การตัดสินใจแก้ปัญหาอยู่ในจุดที่เหมาะสมต่อการสร้างความเป็นธรรม และสร้างความเข้าใจระหว่างกัน ในฐานะที่ตนเคยอยู่ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ผ่านมา ได้จัดทำรายงานการศึกษา จำนวน 2 ฉบับซึ่งพูดถึง แนวทางการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ จึงขอให้ผู้มีอำนาจประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์กับ “คดีตากใบ” ดังนี้
.

  1. รัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษประชาชน (Public Apology) ต่อเหตุการณ์ “คดีตากใบ” ในอดีต แม้เหตุการณ์จะผ่านพ้นไปนานเพียงใดก็ตาม การให้ความเห็นดังกล่าว ตนนำมาจากรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏร เรื่อง แนวทางการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ
    .
    “ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้าน ฯลฯ ควรกล่าวขอโทษต่อสาธารณชน (Public Apology) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรีที่บริหารประเทศขณะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง และนายกรัฐมนตรีที่บริหารประเทศอยู่ในปัจจุบัน ควรแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะต่อเหยื่อของความรุนแรง เนื่องจากรัฐมีความบกพร่องและขาดกลไกที่มีประสิทธิภาพในการจัดการความขัดแย้งทางการเมืองให้ดำเนินไปตามสันติวิธี จนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และความรู้สึกของประชาชนอย่างมาก
    .
    รวมทั้งแสดงเจตจำนงที่จะประกันความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน โดยพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและช่วยรักษาบรรยากาศของการปรองดองในประเทศให้ดียิ่งขึ้น จึงต้องให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าการยอมรับผิดชอบและการขอโทษเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นที่จะนำไปสู่ความปรองดองในชาติ ทั้งนี้ ไม่ว่าเหตุการณ์จะผ่านพ้นไปนานเพียงใดก็ตาม” (อ้างอิงรายงานฉบับสมบูรณ์คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.),2555 : 244)
    .
  2. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรขวนขวาย กระตือรือร้น ในการสืบหาตัวจำเลยที่หลบหนีหมายศาลเพื่อนำมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลอย่างถึงที่สุดก่อนจะหมดอายุความ
    .
  3. รัฐบาลควรปรับแนวทางในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนโยบายและโครงสร้าง โดยน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และนำนโยบายการเมืองนำการทหาร ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 66/2523 มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งรวมไปถึงการเปิดพื้นที่ให้มีการพูดคุยสันติภาพด้วยความจริงใจ เพื่อแก้ไขลดปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ โดยยึดหลักการ “ให้อภัย” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในคำสอนของศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม (รวบรวมจากรายงานการศึกษาของ กมธ. ฯ ดังกล่าวข้างต้น)
    .
    ในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เรื่อง “คดีตากใบ” โดยเชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลกับ กมธ.มีข้อสังเกตว่า คดีนี้อยู่ในความสนใจเพราะมี เจ้าหน้าที่ทูต รวมถึงอุปทูตให้ความสนใจเข้ารับฟังจำนวนมาก
    .
    ดังนั้นรัฐบาลและผู้มีอำนาจจะต้องตระหนักและให้ความสำคัญ ซึ่งตนขอแสดงความเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า “คดีตากใบ” ถือเป็นวิกฤตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และของประเทศที่ยืดเยื้อยาวนานเกือบจะครบ 20 ปี ใน 25 ต.ค.67 นี้ รัฐใช้งบประมาณและทรัพยากรไปมากมายในการแก้ไขปัญหา ขณะที่ประชาชนกลับยากจน ในท่ามกลางความยากจน ประชาชนกลับต้องการ “ความยุติธรรม”รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อคำนึงถึง “ชาติ” ต้องให้ “ความยุติธรรม” แก่ประชาชนให้จงได้
    .
    ขณะเดียวกัน ประชาชนส่วนใหญ่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ควรคำนึงถึง “ชาติ” เช่นกัน เมื่อ Peace Survey โดยสถาบันพระปกเกล้า เคยสำรวจความเห็นประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ดังนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ก็ควรรักษาสิทธิของตนเองไม่ให้ผู้ที่มีความเห็นต่างส่วนน้อยทั้งจากภายในประเทศและที่อาจแทรกแซงจากต่างประเทศมาสร้างความไม่สงบในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกต่อไป

ไทยสร้างไทย #คดีตากใบ

ร่วมแบ่งปันนโยบาย:

Facebook
Twitter

ข่าวสารน่าสนใจอื่น ๆ

ข่าวสาร
ไทยสร้างไทย ชี้แนะรัฐบาลเตรียมการรองรับนโยบายการขึ้นภาษีสินค้านำเ...
ข่าวสาร
“ชัชวาล ไทยสร้างไทย” ห่วงรัฐเดินหน้า เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ช...
ข่าวสาร
แถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทย ฉบับที่ 2 เรื่องเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็...
ข่าวสาร
ไทยสร้างไทย ชี้แนะรัฐบาลเตรียมการรองรับนโย...
ข่าวสาร
“ชัชวาล ไทยสร้างไทย” ห่วงรัฐเดินหน้า เอนเท...
ข่าวสาร
แถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทย ฉบับที่ 2 เรื่องเ...
ข่าวสาร
"ไทยสร้างไทย" ร่วมเชิดชูครูผู้เสียสละ พร้อ...
ติดตามทางโซเชียลมีเดีย