ดร. ศักดิ์ณรงค์ ไทยสร้างไทย จี้ รัฐบาลต้องยกเลิก MOU 44 โดยเร็ว พร้อมเร่งเจรจาอาณาเขตอธิปไตย พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (OCA)กว่า26,400 ตร.กม.ก่อนที่ไทยจะเสียดินแดน ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เขาพระวิหาร

ข่าวสาร

ดร. ศักดิ์ณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นด้วยความห่วงใยหลังได้ฟัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดถึงกรณี MOU 2544 และ พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (OCA) ระหว่างไทยกับกัมพูชา ว่า “ขออย่าให้ขยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องของการยึดดินแดนหรือเสียดินแดน เพราะนั่นเท่ากับเป็นการคลั่งชาติ ที่มาทำลายผลประโยชน์ที่ประเทศควรจะได้รับ”

ตนเห็นว่าการที่นายภูมิธรรม ได้ออกมาแสดงความเห็นด้วยถ้อยคำเช่นนี้ ไม่ได้ช่วยให้เกิดผลดีต่อ สังคมไทยที่กำลังให้ความสนใจกับเรื่องของเกาะกูด และแนวเขตแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ ตนเชื่อว่าทุกคนที่เกิดมาเป็นคนไทย อยู่บนผืนแผ่นดินไทย โดยพื้นฐานก็ย่อมมีความรักและห่วงใยประเทศชาติด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่ว่าแต่ละคนอาจจะมีช่องทางและโอกาสในการแสดงความเห็นที่แตกต่างกัน การแสดงออก ให้ความเห็นตามเหตุและผลที่เป็นจริงของประชาชน จึงเป็นความห่วงใยชาติบ้านเมือง ที่ไม่อยากเห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนดังเช่นกรณีเขาพระวิหาร ที่เราเคยเสียดินแดนให้กับกัมพูชามาแล้วในอดีต ไม่ใช่เป็นการคลั่งชาติอย่างที่นายภูมิธรรมกล่าว

จึงอยากให้นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม กลับไปทบทวนให้ดี ก่อนที่จะเดินหน้าเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์กับกัมพูชา ว่าการทำ MOU เมื่อปี 2544 โดยยอมให้นำทรัพยากรในเขตพื้นที่ที่อ้างว่าทับซ้อน ซึ่งยังไม่ได้มีข้อตกลงให้แล้วเสร็จ มาแบ่งปันกับกัมพูชานั้น เท่ากับว่าไทยได้ยอมรับความมีอยู่จริงของเส้นไหล่ทวีปที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูดของไทยโดยไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายสากล

ซึ่งนั่นเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับกัมพูชาโดยแท้

หากในอนาคตมีการเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเลด้วยการใช้ข้อตกลงภายใต้ MOU ฉบับนี้ไปเป็นหลักฐาน หรือเป็นข้อพิสูจน์ในศาลระหว่างประเทศ โดยอ้างสิทธิ์เพื่อให้เส้นไหล่ทวีปที่กัมพูชาขีดลากผ่านเกาะกูดนี้ เป็นเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ถูกต้องและสมบูรณ์ ก็จะนำไปสู่การเสียดินแดนของไทยในที่สุด ตนจึงเห็นว่า ทั้งพื้นที่ที่อ้างว่าทับซ้อน (OCA) และ MOU 2544 ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ เปรียบเสมือนกับดักที่นำไปสู่การเสียดินแดนของไทยในอนาคต

ขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้มีการเจรจายอมตกลงแบ่งปันทรัพยากรใดๆ กับกัมพูชาในพื้นที่ที่อ้างว่าทับซ้อนจำนวน 26,400 ตารางกิโลเมตรนี้ และจะต้องตั้งทีมเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างกันให้แล้วเสร็จเสียก่อน หากไทยยอมตกลงแบ่งปันผลประโยชน์ทรัพยากรในพื้นที่ที่อ้างว่าทับซ้อนตาม MOU นี้ ก่อนการเจรจาแบ่งเขตแดนจะแล้วเสร็จ ก็เท่ากับว่า รัฐบาลกำลังจะนำพาประเทศไปสู่ความหายนะ เป็นภาระอันใหญ่หลวงให้กับลูกหลานไทยในอนาคต และเป็นการฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการที่ได้ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของไทยด้านอ่าวไทยไว้แล้วเมื่อปี พ.ศ.2516 โดยยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิ์ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา เมื่อปี ค.ศ.1958 (พ.ศ.2501) และไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้วเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2511

นอกจากนั้น จะต้องประกาศยกเลิก MOU 2544 นี้โดยเร็วที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว หากปล่อยให้เนิ่นนานไป ไทยก็จะยิ่งเสียเปรียบ เนื่องจากในข้อความตาม MOU 2544 นั้น ได้สื่อความหมายไว้อย่างชัดเจนว่า ไทยยอมรับการประกาศเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาเมื่อปี 2515 ทั้งที่เป็นการกระทำที่กัมพูชาได้กำหนดแนวเขตของตนเองตามใจชอบ ไม่ได้ขีดเส้นเขตแดนตามหลักกฎหมายสากล คืออนุสัญญาเจนีวา ค.ศ.1958 (พ.ศ. 2501) และอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1982 (พ.ศ.2525)

ร่วมแบ่งปันนโยบาย:

Facebook
Twitter

ข่าวสารน่าสนใจอื่น ๆ

ข่าวสาร
ไทยสร้างไทย เตือนรัฐบาลหยุดใช้มาตรการชั่วคราว ให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ...
ข่าวสาร
นายนรุตม์ชัย ไทยสร้างไทย เปิด "ยุทธการปราบโกง” แฉปมทุจริตป้ายโฆษณ...
ข่าวสาร
"ไทยสร้างไทย" เรียกร้องรัฐบาล เร่งช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยว หลัง...
ข่าวสาร
ไทยสร้างไทย เตือนรัฐบาลหยุดใช้มาตรการชั่วค...
ข่าวสาร
นายนรุตม์ชัย ไทยสร้างไทย เปิด "ยุทธการปราบ...
ข่าวสาร
"ไทยสร้างไทย" เรียกร้องรัฐบาล เร่งช่วยผู้ป...
ข่าวสาร
แม่หน่อย แสดงความยินดีกับก้าวสำคัญ การจดทะ...
ติดตามทางโซเชียลมีเดีย