“ชวลิต ไทยสร้างไทย” เผยสถิติคนไทยตายด้วยโรคมะเร็งชั่วโมงละ 8 คน เตือนสติทุกภาคส่วนให้ความสำคัญสร้าง “ระบบเฝ้าระวังอาหารปลอดภัย” โดยเฉพาะการมีห้องแล็บปฏิบัติการ ประจำด่านตรวจทุกจุดทั่วประเทศ หากพบการปนเปื้อนสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐาน สั่งทำลายหรือส่งกลับทันที

ข่าวสาร

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย อดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยข้อมูลว่า คนไทยตายด้วยโรคมะเร็ง เฉลี่ย 67,000 คน/ปี หรือเฉลี่ย 8 คน/ชั่วโมง และพบผู้ป่วยรายใหม่ เฉลี่ย 120,000 คน/ปีมาเตือนสติให้คนไทยทุกภาคส่วนเห็นภัยอันตรายใกล้ตัว
.
เพื่อให้ความสำคัญกับการพัฒนาสร้าง “ระบบการเฝ้าระวังอาหารปลอดภัย” ดังเป็นที่ทราบกันในทางวิชาการว่า อาหารโดยเฉพาะผัก ผลไม้ ที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวัน หากปนเปื้อนสารเคมีเกินค่ามาตรฐานแล้วสะสมในร่างกายทุกวันก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็ง สำหรับกรณีที่เลขาธิการ อย.ให้สัมภาษณ์ว่า จะดำเนินการสุ่มตรวจสอบองุ่นไชน์มัสแคทซ้ำยังตลาดและห้างโมเดิร์นเทรด ซึ่งไปตรวจแล้วพบสารเคมีปนเปื้อนถึง 50 รายการ นั้น
.
ตนในฐานะที่ผมเคยทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร เห็นว่าการสุ่มตรวจตามตลาดเป็นมาตรการ “ปลายทาง” ควรดำเนินการสุ่มตรวจแต่ “ต้นทาง” ที่ด่านศุลกากรรอบประเทศ นอกจากนั้น ยังมีข้อสังเกตที่สำคัญที่ให้รัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุขหรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปดำเนินการสร้าง “ระบบเฝ้าระวังอาหารปลอดภัย”
.
นายชวลิต ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยนำเข้าผักและผลไม้จากประเทศ สาธารณร้ฐประชาชนจีน ปีละกว่า 59,000 ล้านบาท แต่ระบบการสุ่มตรวจสารเคมีปนเปื้อนยังไม่ได้มาตรฐานอย่างมาก ไม่มีห้องปฏิบัติการแม้แต่ห้องเดียวตามด่านชายแดน ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วนด้วยการจัดระบบงบประมาณเพื่อใช้ในการก่อสร้างห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบสารพิษตกค้างในสินค้าเกษตรให้ครอบคลุมทั้งสินค้าเกษตรที่มีการนำเข้า และผลิตผลทางการเกษตรภายในประเทศ
.
นายชวลิต ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า กรณีการสุ่มตรวจตามตลาด และห้างโมเดิร์นเทรด เป็นการสุ่มตรวจที่ “ปลายทาง” จึงน่าเห็นใจพ่อค้า แม่ค้า ที่รับสินค้ามาจำหน่าย สินค้าเหล่านั้นควรผ่านการสุ่มตรวจ ณ ด่านรอบๆ ประเทศที่น่าเห็นใจกว่านั้น คือ ประชาชนผู้บริโภคไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้เลยว่าสินค้า ที่ซื้อมาบริโภคนั้น ผลิตจากทีใด มีการรับรองจากหน่วยงานที่รับผิดชอบหรือไม่ ต่างจากผลไม้จากไทย เช่น ทุเรียน ลำไย มังคุด ประเทศผู้นำเข้าจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะเขาให้ความสำคัญกับสุขภาพ อนามัยของประชาชนผู้บริโภคของเขา
.
สำหรับการสุ่มตรวจผัก ผลไม้ ที่ด่าน จากเดิม อย.จะต้องนำส่งผัก ผลไม้ไปตรวจที่ส่วนกลาง คือ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเวลาในการตรวจสอบสวนทางกับสถานการณ์ความเป็นจริงที่รถบรรทุกผัก ผลไม้จากจีนเข้าแถวยาวเหยียดส่งผัก ผลไม้ มายังตลาดสี่มุมเมือง ตลาดตามภาคต่าง ๆ มากมายทุกวัน หากเรามีห้องแล็บประจำทุกด่านรอบประเทศ เมื่อพบสินค้าที่มีสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน หากส่งกลับ หรือสั่งทำลายสักครั้งสองครั้ง ต่อไปสินค้านำเข้าก็จะได้มาตรฐานโดยปริยาย
.
ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาสร้าง”ระบบเฝ้าระวังอาหารปลอดภัย” แม้จะใช้งบประมาณจำนวนมากในระยะเริ่มแรก แต่จะคุ้มค่าในการป้องกัน และรักษาสุขภาพอนามัยของประชาชนคนไทยในระยะยาว ซึ่งคุ้มยิ่งกว่าคุ้มที่แต่เดิม งบประมาณและค่าใช้จ่ายหมดไปกับการรักษา ทั้งที่การป้องกันก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน หรืออาจจะสำคัญกว่าการรักษาซึ่งเป็นปลายทางด้วย

ไทยสร้างไทย #อาหารปลอดภัย #มะเร็ง #สารพิษตกค้าง

ร่วมแบ่งปันนโยบาย:

Facebook
Twitter

ข่าวสารน่าสนใจอื่น ๆ

ข่าวสาร
ไทยสร้างไทย เตือนรัฐบาลหยุดใช้มาตรการชั่วคราว ให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ...
ข่าวสาร
นายนรุตม์ชัย ไทยสร้างไทย เปิด "ยุทธการปราบโกง” แฉปมทุจริตป้ายโฆษณ...
ข่าวสาร
"ไทยสร้างไทย" เรียกร้องรัฐบาล เร่งช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยว หลัง...
ข่าวสาร
ไทยสร้างไทย เตือนรัฐบาลหยุดใช้มาตรการชั่วค...
ข่าวสาร
นายนรุตม์ชัย ไทยสร้างไทย เปิด "ยุทธการปราบ...
ข่าวสาร
"ไทยสร้างไทย" เรียกร้องรัฐบาล เร่งช่วยผู้ป...
ข่าวสาร
แม่หน่อย แสดงความยินดีกับก้าวสำคัญ การจดทะ...
ติดตามทางโซเชียลมีเดีย