นายนรุตม์ชัย บุนนาค รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะกรรมการติดตามการบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานคร พรรคไทยสร้างไทย ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในกรุงเทพมหานคร โดยระบุถึงปัญหาการติดตั้งป้ายโฆษณาที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะป้ายโฆษณาบนเกาะกลางถนนและอาคาร ซึ่งนายนรุตม์ชัย เห็นว่าป้ายโฆษณาจำนวนมากที่ติดตั้งบนเกาะกลางถนนและบนอาคารในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีขนาดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 พรบ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 กฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้ายตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. 2558 และ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องควบคุมอาคาร พ.ศ.2544 นอกจากนี้ ยังมีการระบุว่าการติดตั้งป้ายบนเกาะกลางถนนขัดต่อประกาศ กทม. ว่าด้วยเรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการติดตั้งป้ายโฆษณาในที่สาธารณะปี 2548 และข้อบัญญัติ กทม. เรื่องกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารประเภทป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้น สำหรับติดหรือตั้งป้ายในพื้นที่บางส่วน ในท้องที่ กทม. ปี 2549
นายนรุตม์ชัย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า กทม.ส่อว่าจะมีการอนุญาตที่อาจเอื้อประโยชน์ เพราะจากการตรวจสอบพบข้อมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกรณีที่สำนักงานโยธาและสำนักจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร อนุญาตให้บริษัทเอกชนติดตั้งป้ายโฆษณาบนเกาะกลางถนน แม้ว่าจะมีกฎหมายห้ามไว้ชัดเจน และกระทำดังกล่าวอาจเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน โดยสัญญาเช่าป้ายโฆษณาบางฉบับมีระยะเวลายาวถึง 5-10 ปี และคิดค่าเช่าป้ายในอัตราที่สูง ทั้งที่กรุงเทพมหานครมีรายได้จากค่าเช่าที่ให้เอกชนเช่าในแต่ละปีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวขัดต่อระเบียบและกฎหมายที่มีอยู่อย่างชัดเจน และยังทำให้รัฐสูญเสียรายได้ในแต่ละปีมหาศาล
“สัญญาเช่าป้ายโฆษณาต้นฉบับมี ระยะเวลายาวถึง 5-10 ปี โดยกรุงเทพมหานครคิดค่าเช่าต่อบริษัทเอกชนในราคาที่ต่ำ ในขณะที่บริษัทเอกชนนำโฆษณาเหล่านี้ไปปล่อยเช่าช่วงต่อในราคาที่สูง สร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาล ทำให้รัฐสูญเสียรายได้” นายนรุตม์ชัย กล่าว
นายนรุตม์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบและดำเนินการก่อนหน้านี้ คณะกรรมการติดตามการบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานคร พรรคไทยสร้างไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและพบว่าปัญหานี้ ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่มีการร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567
ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสียหายต่อประเทศชาติและรักษาความโปร่งใส คณะกรรมการจะร่างหนังสือและส่งเรื่องให้เลขาธิการ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งยินดีให้ความร่วมมือในการส่งมอบพยานหลักฐานที่มี เพื่อช่วยเร่งรัดกระบวนการตรวจสอบให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ คณะกรรมการขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยกันตรวจสอบการปฏิบัติงานของหน่วยงานรัฐเพื่อความโปร่งใสของบ้านเมืองต่อไป
ทั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทย จะนำข้อมูลที่ส่อว่าจะมีการทุจริตในกรุงเทพมหานคร ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติม โดยเฉพาะกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท มีการใช้วิธีจัดซื้อแบบ “เฉพาะเจาะจง” สูงถึง 93% ซึ่งส่อขัดต่อระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงลุยตรวจสอบโครงการติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณสถานีจอดรถจักรยานสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ 250 จุด ส่อขัด TOR ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด