เบสท์ วงศ์ไพโรจน์กุล รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเตรียมมาตรการที่เหมาะสมในการรับมือกับสถานการณ์การหลั่งไหลของผู้ลี้ภัยจากค่ายกะเหรี่ยงในพื้นที่ชายแดน หลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้ตัดงบประมาณจากองค์กรช่วยเหลือผู้ลี้ภัยอย่าง International Rescue Committee (IRC) ส่งผลให้การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัยในค่ายหลายแห่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก และอาจจะทำให้ผู้ลี้ภัยจำนวนมากต้องเข้ามาในประเทศไทยเพื่อขอรับการรักษาพยาบาล
.
พรรคไทยสร้างไทยยืนยันว่าประเทศไทยควรมีการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างมีมนุษยธรรมพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือโดยไม่ละเลยสิทธิของมนุษย์แต่ในขณะเดียวกันจะต้องมีการควบคุมและดูแลอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ผู้ลี้ภัยกลายเป็นภาระหรือปัญหาต่อสังคมไทยในระยะยาวดังนี้
.
รัฐบาลต้องพิจารณาจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวที่มีความปลอดภัยและมีการดูแลสุขภาพที่ดี โดยจัดให้มีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ลี้ภัยที่เข้ามาอย่างเร่งด่วน พร้อมให้การรักษาพยาบาลที่จำเป็น โดยไม่ให้กระทบต่อการดูแลผู้ป่วยทั่วไปในประเทศ
และเพื่อไม่ให้ปัญหาการรับผู้ลี้ภัยล้นเกินไป รัฐบาลควรมีการคัดกรองอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ลี้ภัยที่เข้ามาจะได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและไม่สร้างภาระเกินจำเป็น
โดยดำเนินการไปพร้อมกับการบูรณาการความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศและภาคประชาสังคม เพื่อจัดหาเงินทุนและทรัพยากรที่จำเป็นในการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และรัฐบาลรวมถึงพรรคการเมืองต่างๆ ควรสร้างการสื่อสารที่โปร่งใสกับประชาชน เพื่อให้เกิดการเข้าใจและความร่วมมือในระดับชุมชน
.
พรรคไทยสร้างไทย ย้ำว่าการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในช่วงวิกฤติเป็นการแสดงออกถึงจิตใจที่มีมนุษยธรรมของชาติไทย แต่เพื่อให้สถานการณ์การรับผู้ลี้ภัยจากค่ายกะเหรี่ยงไม่กลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความเป็นอยู่ของประชาชนไทย รัฐบาลจำเป็นต้องมีการวางแผนที่รอบคอบและดำเนินการอย่างมีระเบียบในทุกขั้นตอน โดยต้องคำนึงถึงการคัดกรองผู้ลี้ภัยที่เข้ามาในประเทศอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่า บุคคลที่เข้ามาจะไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงภายในประเทศ ทั้งในด้านการกระทำผิดกฎหมายหรือการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ การมีระบบตรวจสอบประวัติบุคคลและการตรวจสอบสถานะทางกฎหมายอย่างรัดกุมจะช่วยให้สามารถลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้
.
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเตรียมการรองรับในด้านสาธารณสุขและสวัสดิการ โดยไม่ให้การดูแลผู้ลี้ภัยกระทบต่อบริการและทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศ สำหรับประชาชนไทย การจัดตั้งศูนย์พักพิงและการให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขจะต้องไม่ทำให้เกิดความแออัดเกินไปหรือกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง รัฐบาลควรจัดสรรทรัพยากรให้เพียงพอ และมีการวางแผนการกระจายอุปกรณ์การแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้ทั้งผู้ลี้ภัยและประชาชนสามารถได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงโดยไม่เกิดปัญหาการขาดแคลน