นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลเร่งบรรจุญัตติเรื่องมาตรการสาธารณภัยเป็นวาระเร่งด่วนในการประชุมสภาครั้งถัดไป เพื่อผลักดันกฎหมายและแนวทางบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อเกิดภัยพิบัติ โดยชี้ว่ามาตรการปัจจุบันขาดประสิทธิภาพ และการรับมือกับภัยพิบัติที่ผ่านมายังมีปัญหาล่าช้าและทับซ้อน
.
นายปริเยศระบุว่า ปัญหาสาธารณภัย ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ อุบัติภัยเฉพาะพื้นที่ เช่น ตึกถล่ม หรือสะพานพัง และภัยจากเหตุความไม่สงบ เช่น เหตุกราดยิง ล้วนเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงขึ้นทุกปี แม้รัฐบาลจะสามารถประกาศภาวะฉุกเฉินได้ แต่ยังต้องพึ่งพาอาสาสมัครเป็นหลักในการช่วยเหลือ การทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ยังขาดการบูรณาการอย่างเป็นระบบ ดังนั้น ควรนำบทเรียนจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา มาจัดทำเป็นมาตรการที่ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกัน การจัดการภาวะฉุกเฉิน ไปจนถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งออกกฎหมายรองรับโดยเฉพาะ
.
นอกจากนี้ โฆษกพรรคไทยสร้างไทยยังตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลยังไม่มีแนวทางชัดเจนเกี่ยวกับการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร โครงการก่อสร้าง ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เช่น ถนนและสะพาน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ข่าวภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในไทยยังสร้างความกังวลไปถึงต่างประเทศ เช่น กรณีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่มีเพื่อนจากจีนสอบถามสถานการณ์เข้ามา แต่กลับยังไม่เห็นปฏิกิริยาหรือมาตรการตอบสนองที่ชัดเจนจากรัฐบาลเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรี
.
นายปริเยศยังแสดงความกังวลว่า รัฐบาลอาจมุ่งเน้นวาระอื่นแทน เช่น การผลักดันกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แทนที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องที่กระทบชีวิตประชาชนโดยตรง เขาย้ำว่าสภาผู้แทนราษฎรควรทำหน้าที่ผลักดันประเด็นนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้ประเทศไทยมีระบบจัดการภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐาน