นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนเตรียมการกู้เงินครั้งใหญ่ โดยอ้างปัญหาเศรษฐกิจที่มีลักษณะคล้ายช่วงวิกฤตโควิด-19 เพื่อจัดสรรงบประมาณไปใช้กับนโยบายที่ติดขัด ไม่ว่าจะเป็นโครงการเงินหมื่นที่ยังค้างจ่าย การแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน และโครงการประชานิยมต่างๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างคะแนนนิยม
.
นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะนำงบกลางไปกระจายให้แต่ละกระทรวง เพื่อคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยอาจอ้างเหตุผลด้านความเร่งด่วนของสถานการณ์เศรษฐกิจ และปัญหารายได้ของรัฐที่ต่ำกว่าคาด
.
นายปริเยศ ระบุว่า ความชอบธรรมของรัฐบาลชุดนี้ถูกตั้งข้อสังเกตในเรื่องความโปร่งใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกรณีที่มีความพยายามผลักดันเรื่องกาสิโนอย่างผิดสังเกต ทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาของประเทศได้
.
“แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะมีความจำเป็นในการใช้เงินเพื่ออัดฉีดระบบเศรษฐกิจ แต่หากรัฐบาลขาดความไว้วางใจจากประชาชน การกู้เงินเพิ่มก็อาจยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง เพราะประชาชนตั้งคำถามว่าเงินกู้จะถูกใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมจริงหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อก้อนเงินก่อนหน้านี้ก็ไม่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายปริเยศกล่าว
.
นายปริเยศ กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคร่วมรัฐบาลควรทบทวนจุดยืนของตนว่า จะเลือกยืนอยู่ข้างประชาชนหรือผลประโยชน์เฉพาะหน้า หากรัฐบาลใช้งบกลางเพื่อซื้อใจและแลกกับการสนับสนุนทางการเมือง
