คุณหญิงสุดารัตน์ร่วมชุมนุมต่อต้านเผด็จการที่สะพาน ผ่านฟ้า ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ หนึ่งในเหตุการณ์ทาง การเมืองครั้งประวัติศาสตร์ของไทยที่พี่น้องประชาชนได้ออกมาขับไล่เผด็จการที่ยึดอำนาจจากประชาชน
พ.ศ. 2535
พ.ศ. 2535
คุณหญิงสุดารัตน์ จากพรรคพลังธรรม ในวัย 31 ปีได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรก เป็นที่มาของชื่อ “เจ้าแม่ กทม.” เพราะลงมือแก้ไข ปัญหาให้คน กทม. แบบชนิดกินพื้นที่กว้างขวาง รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ
“สมพล เกยุราพันธ์” ผู้เป็นพ่อ ให้คำสอนที่สุดารัตน์ยึดเอาเป็นหลักสำคัญของอาชีพนักการเมือง และถือปฏิบัติมาตลอด ชีวิตทาง การเมือง ด้วยคำสอนของคุณพ่อสมพลที่ว่า “เป็นนักการเมืองต้องเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา เชื่อว่าเราสามารถใช้ สภาฯ เป็นทางออก จากปัญหา และวิกฤติการเมืองได้อยู่เสมอ”
คุณหญิงสุดารัตน์ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 23 กันยายน 2535 ในคณะ รัฐมนตรีไทย คณะที่ 50 สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายก รัฐมนตรี ถือเป็นการรับตำแหน่งในรัฐบาล ครั้งแรก
พ.ศ.2535
พ.ศ. 2537
คุณหญิงสุดารัตน์ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคพลังธรรมในวันที่ 17 กันยายน 2537 ถือเป็นเลขาธิการ พรรค ผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย ในเวลานั้น พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม
คุญหญิงสุดารัตน์ ในวัย 34 ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 25 ตุลาคม 2537 ในคณะรัฐมนตรีไทย ผลงานสำคัญคือ การวางแผน ปรับเปลี่ยนสถานีขนส่ง หมอชิต ให้เป็นสถานีรถไฟฟ้า
พ.ศ. 2537
พ.ศ. 2538
คุณหญิงสุดารัตน์ได้รับการแต่งตั้งในวันที่ 18 กรกฎาคม 2538 ในคณะรัฐมนตรีไทย ผลงานสำคัญ คือ การผลักดันให้เกิดโครงข่าย ระบบ ขนส่งมวลชนในเมืองสำคัญๆ ระดับภูมิภาค ทั้งใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล รองรับการขยายตัว ของเมือง ในอนาคตอีกด้วย
ในปี 2541 คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ร่วมก่อตั้งพรรค ไทยรักไทยที่นำโดย พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร คุญหญิงสุดารัตน์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ทั้งยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้สมัครคนแรกของพรรคไทยรักไทย ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร เมื่อปี 2543 ที่แม้จะแพ้ให้กับสมัคร สุนทรเวช แต่ก็ได้รับคะแนนไปกว่า 5 แสนเสียง
พ.ศ. 2541
พ.ศ. 2544
คุณหญิงสุดารัตน์ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2544 ในคณะรัฐมนตรีไทย ผลงานสำคัญคือการเร่งดำเนินนโยบายการสร้างหลัก ประกันสุขภาพถ้วนหน้า โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค
พ.ศ. 2545
ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คุญหญิงสุดารัตน์ ได้ผลักดันให้รัฐบาลประกาศให้ปี 2545 เป็นปีแห่งการเริ่ม ต้นรณรงค์สร้างสุขภาพทั่วไทย โดยรณรงค์ให้ประชาชนคนไทยหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ลดโรค
พ.ศ. 2547
เกิดการแพร่ระบาดไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในไทย ทำให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล คนไทยและชาวต่างชาติไม่เชื่อมั่น ความปลอดภัยในอุตสาหกรรมไก่ของไทย คุณหญิงสุดารัตน์จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานมหกรรมกินไก่ผลิตภัณฑ์ จากไก่ ที่ท้องสนามหลวง
พ.ศ. 2547
ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คุญหญิงสุดารัตน์ ได้วางระบบกับบุคลากรทางการแพทย์ และทีมกู้ภัย ทั้ง จากในพื้นที่และนอกพื้นที่ เพื่อให้สามารถรับมือและบริหารจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และค้นหาศพผู้สูญหาย กลับคืนสู่ ครอบครัวอันเป็นที่รัก
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในวันที่ 13 มีนาคม 2548 ในคณะรัฐมนตรีไทย ผลงานสำคัญคือเร่งปรับโครงสร้างการผลิตการเกษตร เปิดและขยายตลาดสินค้าเกษตร เจรจาเพื่อลดข้อกีดกัน ทางการค้า
พ.ศ. 2548
พ.ศ. 2548
ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คุญ หญิงสุดารัตน์ได้น้อมนำโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่ง เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการปฏิรูป การเกษตรของ ประเทศ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าชั้น 4 จตุตถ จุลจอมเกล้า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2548 ทำให้ได้รับคำนำ หน้าว่า “คุณหญิง” นับแต่นั้นเป็นต้นมา
พ.ศ. 2551
ปี 2551 เมื่อคุณแม่ป่วย ต้องเข้ารักษาตัวทำให้คุญหญิงสุดารัตน์มีโอกาสได้ใช้เวลา ในการดูแลคุณแม่ เมื่อคุณแม่อาการ ป่วยเริ่มทรุดลง ทำให้ตนเองซึ่งมีความรู้สึกผูกพันกับคุณแม่อย่างยิ่ง มีสภาพจิตใจที่ดำดิ่ง จึงมีผู้แนะนำให้ใช้การสวดมนต์ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการหันมา สนใจด้านพระพุทธศาสนา คุณแม่ จึงเสมือนผู้ให้กำเนิดครั้งที่สอง นั่นคือการให้กำเนิด ทางธรรม
พ.ศ. 2561
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้รับอนุญาตจากกองทุนพัฒนาลุมพินี รัฐบาลเนปาล ตลอดจนคณะกรรมการมรดกโลก ให้สามารถดำเนินโครงการบูรณะสถานที่ประสูติ ของพระพุทธเจ้าทีสวนลุมพินีวัน ประเทศเนปาล รวมถึง ลานสวดมนต์ ห้องสุขา โดยใช้งบประมาณจากพลัง ศรัทธาของประชาชนชาวไทย
พ.ศ. 2561
คุณหญิงสุดารัตน์ เข้ารับประทานปริญญาบัตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) จากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2561 ด้วยผลงานดุษฎีนิพนธ์ “พุทธวิธีเชิงบูรณาการแก้ปัญหาความขัดแย้งการเมืองไทยในปัจจุบัน”
ในปี 2562 คุณหญิงสุดารัตน์รับบทบาทนำในพรรคเพื่อไทย ทั้งในฐานะประธานกรรมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และใน ฐานะ แคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งหนนี้ คุญหญิงสุดารัตน์เป็นผู้หญิงเพียงคน เดียว ที่ก้าวขึ้นไปถึงการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผลการเลือกตั้ง แม้พรรคเพื่อไทย จะได้ ส.ส. มากที่สุด แต่ไม่ได้เป็น รัฐบาล ด้วยกติกาอันพิสดารที่ให้ ส.ว. มาร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
พ.ศ. 256
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา